'ไบเดน'อาจระบายน้ำมันสำรอง ดึงราคาให้ลดลง หลังดีดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากมติโอเปกพลัส

           หลังจากกลุ่มโอเปกพลัส ตกลงปรับลดกำลังการผลิตมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวน 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ย.65 แม้ตลาดจะตึงตัว ทำให้ชาติตะวันตก รวมถึงสหรัฐฯ แสดงความไม่พอใจ

           ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ระบุว่า จะประเมินสถานการณ์ เพื่อดูว่าจำเป็นต้องระบายคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์หรือไม่ เพื่อฉุดให้ราคาน้ำมันลดต่ำลง ทำเนียบขาว ระบุว่า ประธานาธิบดีไบเดน รู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของโอเปกพลัส ที่ไม่มองการณ์ไกลในการปรับลดโควตากำลังการผลิต ขณะที่ เศรษฐกิจโลกกำลังรับมือกับผลกระทบทางลบที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการรุกรานยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน

          ซาอุดีอาระเบีย ผู้นำโดยพฤตินัยของทางกลุ่ม กล่าวว่า การปรับลดกำลังการผลิตในจำนวนดังกล่าว เป็นสิ่งจำเป็น จากสถานการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในตะวันตกและเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง พร้อมทั้ง ปฏิเสธเสียงวิพาษ์วิจารณ์ว่ากำลังสมคบคิดกับรัสเซีย ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปกพลัส ทำให้ราคาดีดตัวสูงขึ้น

           มติของกลุ่มโอเปกพลัส ทำให้ราคาน้ำมันปิดตลาดเมื่อคืนนี้(5 ต.ค.65) ปรับเพิ่มขึ้น แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพ.ย.65 เพิ่มขึ้น 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

-เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธ.ค.65 เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

*ราคาน้ำมันที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับขึ้น 2.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 121.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

#โอเปกพลัสลดกำลังการผลิต

#ชาติตะวันตกไม่พอใจ

แฟ้มภาพ