เขตยานนาวา เดินเครื่องสูบน้ำ จุดอ่อนน้ำท่วมขัง ซ.นนทรี 14 ส่วนซ.เทียนทะเล 19 มีน้ำทะเลหนุน

05 ตุลาคม 2565, 12:19น.


          กรุงเทพมหานคร(กทม.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมขัง หลังมีฝนตกต่อเนื่องเมื่อช่วงสายวันนี้(5 ต.ค.65) ล่าสุด สำนักการระบายน้ำ รายงานเมื่อเวลา 11.15 น. ว่ากทม. มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง ในพื้นที่เขตดอนเมือง หลักสี่ บางซื่อ จอมทอง ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางแค บางขุนเทียน เคลื่อนตัวทิศตะวันตก เเนวโน้มคงที่/ปริมาณฝนสูงสุด เขตบางคอแหลม 34.0 มม.



          ทำให้ช่วงเวลาประมาณ 10.00 - 11.00 น. มีน้ำรอการระบาย



-เขตบางขุนเทียน เมื่อเวลา 11.00 น. มีฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ ทำให้ซอยเทียนทะเล 19 มีน้ำท่วมขังรอระบาย ประมาณ 3-5 เซนติเมตร สาเหตุเกิดจากน้ำทะเลหนุน ปัจจุบันน้ำกำลังลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชน 



-เขตบางรัก เมื่อเวลา 10.45 น.ฝนตกเล็กน้อยในพื้นที่ (ปัจจุบันหยุดตกแล้ว) ถนนสุรวงศ์ / ซอยสาทร 6-8 / ถนนศาลาแดง ไม่พบน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในคลองสาทร ปกติ



-เขตยานนาวา เมื่อเวลา 10.15 น.ถนนสายหลักและสายรองมีน้ำขังผิวจราจรเล็กน้อย ซอยนนทรี 14 (นาคสุวรรณ) จุดอ่อนน้ำท่วม มีน้ำขังผิวจราจรประมาณ 25 เซนติเมตร ระยะทางประมาณ 100 เมตร (คาดว่าใช้เวลาประมาณ 30 นาที จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ) ส่วนที่ซอยสาธุประดิษฐ์ 15, 39, 45 แยก 3 แยก 5 และซอย 58 แยก 10 ถนนพระรามที่ 3 ซอย 41 ไม่มีน้ำขังผิวจราจร



          กทม.ยังเตรียมความพร้อมของเขตต่างๆ 



-ฝ่ายเทศกิจ จัดเตรียมเจ้าหน้าที่และยานพาหนะ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและช่วยเหลือประชาชน กรณีรถเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุ พร้อมรถยนต์สายตรวจเทศกิจ อำนวยความสะดวกในการเดินทาง



-หน่วยเบสท์ ฝ่ายโยธา ประจำจุดเร่งด่วนน้ำท่วมขัง ประจำเครื่องสูบน้ำ เตรียมกระสอบทรายเสริมแนวป้องกันน้ำท่วม



-ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ จัดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือในการจัดเก็บขยะต่าง ๆ ตามหน้าตะแกรงระบายน้ำ และกรณีต้นไม้หักหรือล้ม



           ส่วนการเตรียมความพร้อมมาตรการรับน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน และน้ำฝน หลังจากที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) เตือนให้กทม.เฝ้าระวัง ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมทั้ง นายเจษฎา จันทรประภา รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 7-8 ต.ค.65 คาดว่า จะเป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด กทม.เตรียมกระสอบทรายกว่า 2 ล้านใบ แจกให้ตามสำนักงานเขตต่างๆ เรียงกระสอบทรายแนวฟันหลอได้ 100% เพิ่มความแข็งแรง พร้อมทั้งพร่องน้ำรอ เตรียมเครื่องสูบน้ำ ประสานกรมชลประทาน บริหารจัดการน้ำให้เบี่ยงไปทางตะวันตกและตะวันออก สิ่งที่ห่วง คือ รอยรั่วซึม ตามแนวคันดินอาจจะถูกน้ำซัด ดินที่ตัวเขื่อนหายไป แนวคันตามริมน้ำเจ้าพระยาสูง 2.80-3.50 เมตร ซึ่งได้เตรียมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังจุดเสี่ยงเร่งดำเนินการทันที และเดือนนี้ยังต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก 



         นอกจากนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งให้รายงานภาพจากกล้อง CCTV เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำทั้งก่อนและหลังฝนตก พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสภาพอากาศให้ประชาชนรับทราบในเวลา 05.00 น. และ 15.00 น. เป็นต้นไป ส่วนช่วงเวลาไหนมีฝนตกหนักก็จะมีการแจ้งเตือนถี่ขึ้น



         ด้านรองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ รายงานสถานการณ์น้ำว่า การระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในอัตรา 2,697 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนสถานีบางไทร น้ำไหลผ่าน 3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยกรมชลประทานจะเริ่มผลักดันน้ำไปทิศตะวันตกมากขึ้น ส่วนสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักยังรับได้ แต่น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อยู่ที่ 106% เกินความจุแล้ว ซึ่งจะต้องระบายน้ำผ่านกรุงเทพมหานคร ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดในวันนี้ เวลา 18.03 น. ระดับฐานน้ำ +1.10 เมตร โดยเดือนนี้น้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในวันที่ 8 ต.ค.65 ฐานน้ำ +2.20 ถึง 2.30 เมตร



         สำหรับปริมาณฝนสะสมตลอดปี 65 อยู่ที่ 1,979 มิลลิเมตร ส่วนปริมาณฝนสะสมในเดือนก.ย.65 อยู่ที่ 801 มิลลิเมตร ปริมาณในสะสมในเดือนต.ค.65 อยู่ที่ 60 มิลลิเมตร  กทม.เตรียมแผนรับมือน้ำเหนือและน้ำฝนไว้แล้ว จัดกระสอบทรายอุดจุดฟันหลอ 76 จุด เช่น  ท่าเรือเทเวศร์ ถนนทรงวาด ท่าราชวรดิฐ เพิ่มประสิทธิภาพ ทำแผนบังคับน้ำปรับทางน้ำไหลที่คลองบางซื่อ คลองชวดใหญ่ตัดคลองลาดพร้าว ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และบังคับน้ำปรับทิศทางน้ำไหลบริเวณคลองบางเขนตัดคลองเปรมประชากร ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฮดรอลิกที่สถานีสูบน้ำพระโขนง เพิ่ม 5 เครื่อง พร้อมประสานงานกับกรมชลประทานต่อเนื่อง



         เมื่อวันจันทร์ 3 ต.ค. 65 ที่เกิดฝนตกหนัก เนื่องจาก มีแนวร่องอยู่กลางกรุงเทพมหานคร จึงทำให้ฝนตกหนักถึง 100 มิลลิเมตร แต่วันนี้พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ปรากฏว่าแนวร่องนั้นหายไป เนื่องจากลมหนาวพัดลงมา หากให้คาดการณ์ฝนตกวันนี้น่าจะเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ บริเวณด้านใต้ ได้แก่ เขตบางนา บางขุนเทียน ลาดกระบัง และประเวศ ซึ่งอาจมีฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง หรืออาจเกิดฝนตกทั่วกรุงเทพฯ ก็ได้ จึงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง





          รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวถึง กรณีที่เคยเกิดเหตุน้ำล้นเกินกระสอบทรายในพื้นที่กรุงเทพฯ สำนักการระบายน้ำ ได้นำมาเป็นประสบการณ์ มีการเสริมกระสอบทรายให้หนาและแข็งแรงขึ้น ส่วนการเสริมกระสอบทรายตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยาจากจุดรอยต่อจังหวัดนนทบุรีจนถึงรอยต่อจังหวัดสมุทรปราการ เสริมขึ้นไปสูงสุดจากเดิม +2.60 ม.รทก. ตลอดความยาว 3 กิโลเมตร ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังในจุดวางกระสอบทรายตามริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาจจะมีการรั่วซึม หากน้ำทะเลหนุนสูงในบางช่วง โดยมีสถานีสูบน้ำ และเครื่องสูบน้ำตลอดแนว



         กรณีที่มีการคาดการณ์ว่าน้ำเหนือจะอยู่ในอัตรา 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คงไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจาก กรมชลประทานจะเป็นผู้บริหารจัดการน้ำ เบี่ยงน้ำไปทางซ้ายทางขวา กทม.ได้เตรียมความพร้อมรับมืออย่างต่อเนื่อง



 



#ฝนตก



#น้ำท่วม



CR:กรุงเทพมหานคร โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ 

ข่าวทั้งหมด

X