หลังรัฐบาลอังกฤษแถลงเมื่อ 10 วันก่อนว่า อังกฤษมีแผนจะยกเลิกภาษีร้อยละ 45 ซึ่งโดยปกติรัฐจะเรียกเก็บจากผู้มีรายได้มากกว่า 150,000 ปอนด์ต่อปี มีผลตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า เอื้อประโยชน์ต่อคนมีรายได้มาก ไม่เป็นธรรมกับประชาชนส่วนใหญ่ในสหราชอาณาจักร อีกทั้งในปัจจุบัน ค่าครองชีพแพงขึ้น กระทบผู้มีรายได้ต่ำ
นายควาซี กวาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษ เปิดเผยกับบีบีซีว่า อังกฤษเปลี่ยนนโยบายเรื่องนี้ใหม่ ยอมรับว่า ที่ผ่านมา เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนมากกว่าการพิจารณามาตรการภาษีในระยะยาว ระบุว่า หลังรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน รัฐบาลได้นำข้อท้วงติงต่างๆมาทบทวนใหม่และจัดทำแผนภาษีให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบัน
ด้านนายคริส มาสัน บรรณาธิการข่าวการเมืองของบีบีซี ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงจุดยืนดังกล่าว สร้างความอับอายให้กับรัฐบาลนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์และตัวรัฐมนตรีคลังเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ส.ส.หลายคนในพรรคอนุรักษ์นิยม พรรครัฐบาล รวมทั้งนายไมเคิล โกฟ ส.ส.ระดับสูงของพรรค และนายแกรนท์ แชปป์ส อดีตรัฐมนตรีคมนาคมอังกฤษ ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้มาตั้งแต่แรก พร้อมเตือนว่า นางทรัสส์ อาจพ่ายการลงมติเรื่องนี้ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ก่อนหน้านี้ นางทรัสส์ ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีเมื่อวานว่า เธอมุ่งมั่นที่จะยกเลิกแผนเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 45 เพื่อปรับโครงสร้างภาษีของอังกฤษให้คล่องตัวมากขึ้น และจะส่งผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต แต่ปรากฏว่ามีกระแสกดดันเรื่องนี้ทั้งจากบรรดานักลงทุนในตลาด พรรคแรงงาน พรรคแกนนำฝ่ายค้านและสส.อีกจำนวนหนึ่งในพรรครัฐบาล และมีแนวโน้มว่า นางทรัสส์อาจจะไม่มีคะแนนเสียงสส.ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมากพอที่จะผลักดันเรื่องนี้ให้ผ่านการลงมติจากที่ประชุมสภา โดยเฉพาะนายโกฟ ระบุว่าเขาจะไม่โหวตรับรองแผนดังกล่าว หากรัฐบาลนำเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมสภา ระบุว่าเขาเชื่อว่าไม่ใช่แผนการที่ถูกต้อง ขณะที่นายแชปป์ส ขอให้นางทรัสส์ทบทวนเรื่องนี้ใหม่
หลังมีรายงานดังกล่าว เงินปอนด์ของอังกฤษแข็งค่าขึ้นกว่าหนึ่งเซนต์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ 1.1263 ดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ เงินปอนด์ร่วงต่ำสุดเป็นสถิติใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังรัฐบาลประกาศแผนงบประมาณ รวมถึงปรับลดภาษีรวม มูลค่า 45,000 ล้านปอนด์ สร้างความผันผวนในตลาดหุ้นและตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราของอังกฤษอย่างต่อเนื่อง
ด้านเซอร์ เอ็ด เดวีย์ ผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย พรรคฝ่ายค้าน ชื่นชมที่รัฐบาลปรับเปลี่ยนแผนภาษีดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้นายกวาร์เต็ง ลาออก ระบุว่า นายกวาร์เต็ง เปลี่ยนนโยบายกลับไปกลับมา ขาดความน่าเชื่อถือ ไม่เหมาะจะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังอีกต่อไป
#อังกฤษ
#แผนภาษี