นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ แสดงความเห็นว่าแม้ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะกล่าวเตือนว่ารัสเซียพร้อมใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องดินแดนของตน และกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ร่วมประณามการข่มขู่นั้น เนื่องจากไม่มีความเหมาะสมในฐานะมหาอำนาจระดับโลก แต่โดยส่วนตัวเขาไม่เชื่อว่า ประธานาธิบดีปูตินจะมีคำสั่งให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน
นายออสตินเปิดเผยด้วยว่า ในการหารือกับนายเซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย หลายครั้งที่ผ่านมา มีการพูดคุยกันในประเด็นเรื่องนิวเคลียร์ ซึ่งนายชอยกูกล่าวหลายครั้งว่า รัสเซียมีหลักการสำคัญว่า จะมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็ต่อเมื่อมีการคุกคามต่อการดำรงอยู่ของรัสเซีย และเมื่อเดือนที่แล้ว นายชอยกูยังเห็นว่าการใช้นิวเคลียร์ในยูเครนว่าเป็นเรื่อง “ไร้สาระ”
ส่วนความเคลื่อนไหวในด้านอื่นๆ
กระทรวงการต่างประเทศตุรกี หนึ่งในประเทศพันธมิตรสำคัญของรัสเซีย ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนว่าไม่รับรองการที่รัสเซียผนวก 4 ดินแดนยึดครองในยูเครน เช่นเดียวกับการที่ไม่รับรองการผนวกดินแดนไครเมียในปี 2557 ตุรกีสนับสนุนบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน รวมถึงเสรีภาพ และอธิปไตย พร้อมแสดงจุดยืน สนับสนุนการแก้ปัญหาด้วยการเจรจา
ส่วนในการประชุมสมัชชาใหญ่ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอเคโอ ที่แคนาดา ซึ่งมีสมาชิก 193 ประเทศ ร่วมลงมติคัดเลือกสมาชิกในคณะมนตรีซึ่งเป็นหน่วยงานฝ่ายบริหาร จำนวน 36 ประเทศ ซึ่งสมาชิกที่จะได้รับการคัดเลือกต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 86 เสียง แต่รัสเซียได้รับเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถกลับเข้าดำรงตำแหน่งได้อีกสมัย และได้ยื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อให้มีการลงคะแนนอีกครั้ง ซึ่งนางป็อปปี โคซา ประธานสมัชชาไอเคโอ รับที่จะตรวจสอบตามคำร้อง
แต่นางยูลิยา โคลาวิฟ เอกอัครราชทูตยูเครนประจำแคนาดา กล่าวว่า การที่รัสเซียต้องพ้นจากคณะมนตรีไอเคโอเป็นครั้งแรก เกิดจากการที่รัสเซียละเมิดอธิปไตยของยูเครน เป็นการละเมิดสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการบินพลเรือน ฉบับปี 2487 หรือสนธิสัญญาชิคาโก ที่เป็นรากฐานของการก่อตั้งไอเคโอ
…
#นิวเคลียร์รัสเซีย
#สหรัฐอเมริกา