แบงก์ชาติติดตามเงินบาทผันผวน หลังอ่อนค่าแตะ 38 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ

                  หลังเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 38 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เงินบาทอ่อนค่าเป็นเรื่องของโลก และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ซึ่งไทยไม่สามารถกำหนดได้ ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงติดตามสถานการณ์เงินบาทอย่างใกล้ชิด เพราะไม่ให้เกิดความผันผวนสูงเกินไป จะทำให้กระทบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งดูแลผู้ส่งออกและนำเข้า จากที่ไม่ค่อยทำประกันความเสี่ยงจากค่าเงินมากนัก ผู้ว่าฯธปท.มองว่าไม่ควรฝืนทิศทางตลาด การไปฝืนไม่เหมาะเนื่องจากได้บทเรียนจากวิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 แล้ว

          ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ เชื่อว่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง จากอุปสงค์ภายในประเทศ ทั้งการบริโภคและการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้น ส่วนภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มถดถอยนั้น ยอมรับว่าอาจจะส่งผลกระทบกับการส่งออก โดยล่าสุด ธปท. ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 3.3% ขณะที่ปี 2566 ที่ระดับ 3.8% ซึ่งรวมสถานการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว และอาจทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็น

          ส่วนการส่งผ่านดอกเบี้ยนโยบายไปยังธนาคารพาณิชย์นั้น ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ ธปท.อยากเห็นการดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไปและเหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะสิ่งที่ ธปท.อยากเห็นและต้องการให้ดำเนินการในทิศทางการปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ

          สำหรับค่าเงินทั่วโลก ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน เงินดอลลาร์แข็งค่า 18% ในขณะที่สกุลเงินอื่นๆ เช่น ปอนด์อังกฤษอ่อนค่าเกือบ 20% , ยูโรอ่อนค่า 14% , เยนอ่อนค่า 20% , เงินบาทไทยอ่อนค่า 12% อยู่กลางๆในภูมิภาค ผลของความอ่อนค่าเงินบาท ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น ส่วนเงินเฟ้อจะสูงมากแค่ไหนนั้น ที่ผ่านมาหากเงินบาทอ่อนค่า 1% จะส่งผลเงินเฟ้อทั่วไป 0.06% จึงไม่เหมือนประเทศอื่นๆ และไม่เหมือนกับวิกฤตปี 40 ที่ขณะนั้นค่าเงินบาทอ่อนค่า หนี้ต่างประเทศสูง แต่ขณะนี้ปัญหาหนี้ต่างประเทศมีน้อยมาก การกู้ยืมดอลลาร์ไม่ได้มากเมื่อเทียบปี 40

          ด้านเงินทุนเคลื่อนย้ายตั้งแต่ต้นปียังมีเงินไหลเข้าเกือบ 4,000 ล้านดอลลาร์และเดือนก.ย.ไหลออก 700 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่ได้น่ากังวล โดยยังมีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ หรือเอฟดีไอ 6,900 ล้านดอลลาร์ และคาดปีนี้จะขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 14,000 ล้านดอลลาร์ ยังไม่ถึง 3% ต่อจีดีพี เทียบตอนปี 40 คือขาดดุล 8% ต่อจีดีพี ประเทศไทยยังมีทุนสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 2.4 แสนล้านดอลลาร์ หรือต่อหนี้ต่างประเทศระยะสั้นสูงถึง 3 เท่า

          นอกจากนั้น จะมีการหารือกับ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ถึงเรื่องกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อซึ่งเป็นไปตามรอบปกติ ส่วนจะเปลี่ยนแปลงจากเดิม 1-3% หรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้

          ล่าสุด เงินบาทเคลื่อนไหว อยู่ที่ 38.24 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ

 #เงินบาทอ่อนค่า

#ธนาคารแห่งประเทศไทย