กรมชลประทาน บริหารจัดการน้ำในอ่างฯรองรับปริมาณฝน จากอิทธิพลพายุ'โนรู'

27 กันยายน 2565, 15:36น.


          การเฝ้าระวังพายุโนรู นายประพิศ  จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า  ได้กำชับไปยังโครงการชลประทานใน พื้นที่เสี่ยง ที่มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง  บริหารจัดการน้ำ ให้เป็นไปตามเกณฑ์เก็บกักน้ำ  พร้อมพิจารณาปรับการระบายให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์  เพื่อพร้อมรองรับ ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น โดยคำนึงถึง ปริมาณ เวลา และสถานที่เป็นหลัก  รวมทั้งร่วมบูรณาการกับหน่วยงานระดับจังหวัดในการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้รับรู้ทราบก่อนการระบายน้ำทุกครั้ง  เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่าง เก็บน้ำ   ติดตั้งเครื่องจักรเครื่องมือ อาทิ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เพิ่มเติมประจำจุดเสี่ยง เพื่อเสริมประสิทธิภาพ การระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น  ที่สำคัญให้ปฏิบัติตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด



           ปัจจุบัน (27 ก.ย.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 55,078 ล้าน ลบ.ม.  คิดเป็นร้อยละ 72 ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 21,030 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 16,307 ล้าน ลบ.ม.  คิดเป็นร้อยละ 66 ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 8,564 ล้าน ลบ.ม. 



           ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องพายุ โนรู ที่จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 กันยายน 2565  และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชัน จะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางของประเทศไทยในวันที่ 29 กันยายน 2565 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าว ไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 2565 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตก หนักมากบางแห่งกับมีลมแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ นั้น  



           ส่วนสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์กหารมหาชน) รายงาน ในวันนี้ว่า พายุจะผ่านเข้ามาประเทศไทย บริเวณตอนเหนือของจังหวัดอุบลราชธานีในวันที่ 29 ก.ย.นี้ ส่งผลให้ปรเทศไทย มีลมกระโชกแรง ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใหม่ มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันตก มีฝนตกหนัก ถึงหนักมาก 28 ก.ย. -1 ต.ค. รวมทั้งต้องเฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะ แม่น้ำชี มูล ป่าสัก เจ้าพระยา และสะแกกรัง





          สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังผลกระทบจากพายุ “โนรู”  คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ ชัยนาท อ่างทอง อุทัยธานี นครราชสีมา นครนายก ปราจีนบุรี สิงห์บุรี นครสวรรค์ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย แพร่ เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สระแก้ว พระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล



 



 



#กรมชลประทาน



#พร่องน้ำรับโนรู

ข่าวทั้งหมด

X