กปร.ร่วมมือ สพฐ.- ขยายความรู้โครงการพระราชดำริให้กับโรงเรียนทั่วประเทศ

          การเสริมสร้างความรู้ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้สืบสานโครงการตามแนวพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ในวันนี้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นายลลิต ถนอมสิงห์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการความร่วมมือเพื่อขยายผลองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริให้กับโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศที่อยู่ในเครือข่าย

          โครงการพระราชดำริ เป็นทฤษฎีการพัฒนาในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาดิน น้ำ ป่าไม้ และการพัฒนาอาชีพ นำมาเป็นจุดเริ่มต้นหลายๆโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และศูนย์สาขาที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย

          ดังนั้นความร่วมมือเพื่อขยายผลองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริสู่เยาวชนขึ้นมา เพื่อให้โอกาสทางการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน รวมถึงในพื้นที่ห่างไกล ได้มีความรู้ ความเข้าใจในแนวพระราชดำริ โดยจะนำความรู้ที่ได้จากการพัฒนาในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เข้าไปเผยแพร่ให้สอดคล้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้  การจัดทำสื่อองค์ความรู้ ผลิตสื่อ อุปกรณ์ที่เข้าใจง่ายทันสมัยและเหมาะสมกับเยาวชนในช่วงระดับชั้น เผยแพร่ขยายผลองค์ความรู้ไปสู่เยาวชนในพื้นที่โรงเรียนที่อยู่ในสังกัด สพฐ. , เขตพื้นที่ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 แห่ง , ศูนย์สาขา โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล และโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ ให้ได้รับความรู้ ในรูปแบบ Play and Learn ด้วยความทันสมัย ปรับเปลี่ยนการเรียนรู้ได้ตามยุคสมัย จะมีการบรรจุในรถยนต์ หรือ Mobile Unit ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ห่างไกลในพื้นที่ยากลำบากต่อการเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น  Mobile Unit จะสามารถให้นักเรียนหรือเยาวชน เรียนรู้เรื่องดิน หญ้า เสียงธรรมชาติ มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้วย

          สำหรับโครงการความร่วมมือเพื่อขยายผลองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริสู่เยาวชน ไม่เป็นเพียงการพัฒนาด้านการศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตแก่เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวสู่การเป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาประเทศชาติ รวมถึงการสืบสาน รักษา ต่อยอดแนวพระราชดำริการพัฒนาให้เกิดประโยชน์สุขอย่างยั่งยืนต่อไป  เช่น

-โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดจันทบุรี  ที่เดิมพื้นที่ชายฝั่งทะเลเกิดปัญหาป่าชายเลนถูกบุกรุกและถูกทำลายบางส่วน และยังถูกแปลงสภาพไปเป็นบ่อปลา บ่อกุ้ง มีการจับสัตว์น้ำแบบผิดกฎหมายในปริมาณมากกว่าระดับความสามารถในการแพร่พันธุ์ ทำให้ทรัพยากรการประมงที่เคยสมบูรณ์ลดลงและพื้นที่ป่าถูกบุกรุกมีคนเข้าไปจับจองทำประโยชน์บริเวณกว้าง จึงมีแนวคิดศึกษาพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งรวมถึงฟื้นฟูการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชายฝั่งที่ถูกทำลาย จนสามารถพัฒนาพื้นที่  ทำให้มีพื้นที่ป่าชายเลนรอบอ่าวคุ้งกระเบนเพิ่มขึ้นและระบบนิเวศกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง เป็นแหล่งอนุบาลการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ ชาวบ้านที่ทำประมงมีอาชีพ มีรายได้ และยังสามารถแปรรูปด้วยภูมิปัญญา เช่น นำหอยนางรม มาแปรรูปเป็นข้าวเกรียบน้ำพริกเผา

          นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนเป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน ท่องโลกใต้ท้องทะเลเป็นสถานที่แสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา อีกด้วย

#โครงการพระราชดำริ

#คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ