การจะยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังพิจารณาอยู่ และเรื่องนี้เป็นอำนาจของตน ไม่จำเป็นต้องนำเข้าหารือในครม. เมื่อถามว่านายกฯจะใช้เกณฑ์อะไรในการพิจารณายกเลิก นายกฯกล่าวว่า มีเกณฑ์อยู่แล้ว ทำไมสื่ออยากรู้ทุกเรื่องเลยหรืออย่างไร "เดี๋ยวออกมาสื่อก็ด่าผมอีก ผมออกของผมเอง ผมรับผิดชอบเอง ผมต้องคุมสถานการณ์ให้อยู่ เพราะฉะนั้นอย่ามาต่อต้านอะไรอีก พอแล้ว
ซึ่งอันใหม่ที่จะใช้ก็คือมาตรา 44 ซึ่งเป็นคำสั่งคสช. ไม่ใช่กฎหมาย ไม่ใช่พรบ. ไม่ใช่อะไรทั้งสิ้น คำสั่งคสช.ถือว่าเหนือทุกอย่าง ดังนั้นพูดให้ชัดก็คือ ขณะนี้ผมเตรียมที่จะใช้มาตรา 44 แทนกฎอัยการศึก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่าการใช้มาตรา44 นี้จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยหลักก็เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินไม่ละเมิดซึ่งกันและกันและไม่ขยายให้เกิดความรุนแรง วุ่นวายในการบริการประเทศตนก็จำเป็นต้องใช้ ผู้สื่อข่าวถามว่าคำสั่งนี้จะออกได้เมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่าคำสั่งนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อมีพระปรมาภิไธยยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก ซึ่งจะต้องเสนอทูลเกล้าฯไป เพราะกฎอัยการศึกมีอำนาจในการประกาศใช้ได้ แต่ตอนยกเลิกต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยยกเลิก ขณะนี้ ยังไม่มีการนำขึ้นทูลเกล้าฯ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะตามดูสถานการณ์ถ้าตราบใดที่ยังมีคนออกมาพูด เช่น อย่าไปรับโทรศัพท์หรืออย่าไปติดต่อกับส่วนราชการเพราะเดี๋ยวทางรัฐบาลหรือคสช.จะเอาไอพีเอสหรือที่อยู่มา แล้วมีปัญหาความ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง
สำหรับมาตรา 44บัญญัติไว้ว่า “ในกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเห็นเป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปในด้านต่างๆ การส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทําอันเป็นการบ่อนทําลายความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร ให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติมีอํานาจสั่งการ ระงับยับยั้ง หรือกระทําการใดๆ ได้ ไม่ว่าการกระทํานั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ และให้ถือว่าคําสั่งหรือการกระทํา รวมทั้งการปฏิบัติตามคําสั่งดังกล่าว เป็นคําสั่ง หรือการกระทํา หรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนี้และเป็นที่สุด ทั้งนี้ เมื่อได้ดําเนินการดังกล่าวแล้ว ให้รายงานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว”