หลังจากที่ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า จะมีฝนตกหนัก บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 21-26 ก.ย.65 ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นและทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น หลายพื้นที่ของจังหวัดที่อยู่ด้านท้ายเขื่อนต้องเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อม
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) ประกาศฉบับที่ 40/2565 เรื่องการเฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา คาดการณ์ว่า จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) อยู่ในเกณฑ์ 2,100 - 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แม่น้ำสะแกกรัง สถานี Ct.19 อัตรา 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลำน้ำสาขาอัตรา 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวมจำนวน 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ในช่วงวันที่ 25-27 ก.ย.65 มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์ 2,200-2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 0.30-0.50 เมตร พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง 6 จังหวัด และ กรุงเทพมหานคร
-ชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง และ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง
-คลองบางบาล อำเภอเสนา และอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
-อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
-จังหวัดปทุมธานี
-จังหวัดนนทบุรี
-กรุงเทพมหานคร
-จังหวัดสมุทรปราการ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา รองรับปริมาณน้ำจากพื้นที่ตอนบน ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในลักษณะทยอยปรับการระบายแบบขั้นบันได เริ่มตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.65 อาจจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มสูงขึ้นในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ
#แม่น้ำเจ้าพระยาน้ำสูงขึ้น
CR:กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ,กรมชลประทาน