รมว.คลังหารือ แบงก์ชาติ ติดตามเงินบาทใกล้ชิด มั่นใจศก.ปีนี้โตได้ 3-3.5%

          นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เพื่อติดตามและแลกเปลี่ยนความเห็นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ทั้งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปัญหาความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และสถานการณ์การอ่อนค่าของเงินบาท โดยยอมรับว่าเงินบาทอ่อนค่าลงจริง แต่ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ เพราะเป็นหน้าที่ของ ธปท.โดย ธปท. เองก็มีความเห็นว่าจะดูแลติดตามให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างปกติให้มากที่สุด

          รมว.คลัง เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยปี 65 จะเติบโตได้ 3-3.5% ถือว่าเป็นระดับที่ดี โดยเป็นผลมาจากการส่งออกที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่าลง และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ที่ตั้งเป้าว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8 ล้านคน

          สำหรับในวันนี้ เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 37.33 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 37.25 บาท/ดอลลาร์มีความผันผวนในช่วงบ่ายหลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เข้าแทรกแซงค่าเงินเยน และยืนยันว่า จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งสวนทางกับธนาคารกลางของหลายประเทศ ที่ต่างปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย จึงทำให้ช่วงบ่ายค่าเงินในภูมิภาคกลับมาแข็งค่าได้บ้าง ประกอบกับมีการขายดอลลาร์  นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 37.30 -37.50 บาท/ดอลลาร์ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 142.93 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 144.35 เยน/ดอลลาร์

          ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,645.29 จุด เพิ่มขึ้น 11.84 จุด (+0.72%) มูลค่าการซื้อขาย 67,375 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,373.97 ลบ. (SET+MAI)

          ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดลบวันนี้ หลังเฟด ระบุว่า จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงอีก ปิดตลาดที่ระดับ 27,153.83 จุด ลดลง 159.30 จุด

          ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดร่วงลงในวันนี้ หลังจากเฟด ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% และส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในปี 2566 เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดตลาดที่ระดับ 18,147.95 จุด ลดลง 296.67 จุด

#เงินบาทอ่อนค่า