ปธ.เฟด ย้ำต้องสยบเงินเฟ้อให้ได้เหลือ 2% แม้ศก.จะขยายตัวลดลง ว่างงานสูงขึ้น

          นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ย้ำว่า จะไม่พิจารณาเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมั่นใจว่าตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลงสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% เป็นการยืนยันอีกครั้งเหมือนกับที่เคยพูดในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อวันที่ 26 ส.ค.65 นายพาวเวล ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะมั่นใจว่าภารกิจในการต่อสู้กับเงินเฟ้อประสบผลสำเร็จ

          FOMC เห็นพ้องที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง และจะเดินหน้าปรับลดอัตราเงินเฟ้อต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจดังกล่าว ดังนั้น แนวทางที่เราคิดในขณะนี้คือ การมุ่งมั่นให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งการทำให้ภารกิจดังกล่าวลุล่วงได้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะขยายตัวต่ำกว่าแนวโน้มที่ควรจะเป็น และตลาดแรงงานอาจจะชะลอตัวลง คณะกรรมการเฟดคาดการณ์ว่า ในปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯจะขยายตัวเพียง 0.2%  ลดลงจากระดับ 1.7% ที่เฟดคาดการณ์ไว้ในเดือนมี.ค.65 สะท้อนให้เห็นว่าเฟดมีความเชื่อมั่นน้อยลงในการพยุงเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป (soft landing) ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น

          นอกจากนี้ เฟด คาดว่า สิ้นปีนี้ อัตราว่างงานจะแตะระดับ 3.8%  และเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% ทั้งในปี 2566 และ 2567 ก่อนที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.3% ในปี 2568 ขณะที่ อัตราว่างงานระยะยาวอยู่ที่ 4.0%

          ประธานเฟด คิดว่า เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องเผชิญ หากเราต้องการสร้างฐานเศรษฐกิจของเราขึ้นมาใหม่ และบุกเบิกแนวทางที่จะนำไปสู่การมีตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งมากขึ้นในวันข้างหน้า เราจำเป็นต้องจัดการกับเงินเฟ้อให้ได้ และเป็นเรื่องที่ท้าทาย คาดหวังว่าการดำเนินแนวทางเช่นนี้จะไม่ทำให้เราเจ็บปวด ไม่มีใครรู้หรอกว่ากระบวนการนี้จะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ และไม่มีใครรู้ว่าภาวะถดถอยจะรุนแรงเพียงใด ยอมรับว่าโอกาสที่เศรษฐกิจจะอยู่ในลักษณะ soft landing จะลดน้อยลง หากเฟดจำเป็นต้องคุมเข้มนโยบายการเงินในระดับที่รุนแรงขึ้นและใช้เวลานานขึ้น

#เฟด

#คุมเงินเฟ้อ

แฟ้มภาพ