แนวโน้มพายุเข้าไทย 1-2 ลูก ปลายก.ย.-ต.ค.ฝนเพิ่ม กอนช.ย้ำบริหารน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ผันน้ำเข้าทุ่ง

22 กันยายน 2565, 07:58น.


          การบริหารจัดการน้ำ หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยา และ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) รายงานว่ามีแนวโน้มของพายุ จำนวน 1-2 ลูก ที่จะเข้ามาทางประเทศไทย คาดว่าจะเข้ามาในช่วงต้นเดือน ต.ค. 65 กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรับฝนปลาย ก.ย.-ต.ค.65





          ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผอ.กอนช. เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์



-ขณะนี้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีประมาณ 2,200 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ขณะที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ระบายน้ำในอัตราประมาณ 1,980 ลบ.ม. ต่อวินาที หากมีปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา 2,500 ลบ.ม. ต่อวินาที จะบริหารจัดการน้ำลงมายังท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และระบายออกทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของเขื่อนเจ้าพระยา โดยพิจารณาปริมาณน้ำจากลุ่มน้ำป่าสักที่จะไหลเข้ามาสมทบด้วย เบื้องต้นกำหนดให้มีปริมาณน้ำ ณ สถานี อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งปรับลดลงจากเกณฑ์เดิมซึ่งอยู่ในอัตรา 3,500 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงกรณีมีฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลให้ลำน้ำเจ้าพระยามีศักยภาพในการระบายน้ำได้ดี สามารถรองรับการระบายน้ำออกจากชุมชนเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ



-บริหารจัดการน้ำโดยใช้ทุ่งรับน้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง จำนวน 10 ทุ่ง ซึ่งก่อนการผันน้ำเข้าทุ่ง จะให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วม โดยมีกรมชลประทานสนับสนุนข้อมูลให้ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง จ.ชัยนาท ในการพิจารณาการผันน้ำเข้าทุ่ง และจังหวัดจะเป็นผู้ประกาศเกณฑ์การรับน้ำเข้าทุ่งให้ประชาชนได้รับทราบล่วงหน้า



-ปัจจุบันทุ่งรับน้ำดำเนินการเก็บเกี่ยวไปแล้วกว่า 90% โดยการเก็บเกี่ยวจะสิ้นสุดประมาณช่วงปลายเดือนก.ย.65 และจะมีการรับน้ำเข้าทุ่งในปริมาณที่ไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน



-กอนช.มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปล่อยปลาเพื่อใช้สำหรับเป็นอาหารและสร้างรายได้เสริมให้แก่ประชาชนในช่วงระหว่างการรับน้ำเข้าทุ่ง และจะมีการเร่งระบายน้ำออกจากทุ่งเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว โดยจะยังคงเหลือปริมาณน้ำไว้จำนวนหนึ่ง ตามนโยบายของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอนช. เพื่อใช้สำหรับเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง โดยต้องเป็นพืชที่เหมาะสมกับปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่



-กอนช.ประเมินสถานการณ์ของประเทศไทยว่าอยู่ในช่วงลานีญา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 20% ของค่าปกติ จึงได้ดำเนินงานเชิงรุกล่วงหน้า เช่น การเตรียมพร่องน้ำในเขื่อนต่าง ๆ



-สถานการณ์ปริมาณน้ำของเขื่อนขนาดใหญ่ในปัจจุบัน ยังสามารถรองรับน้ำได้มาก โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ทางภาคเหนือ จึงสามารถรองรับน้ำได้ หากมีพายุจรเข้ามา รวมทั้งสามารถกักเก็บน้ำต้นทุนสำหรับเพาะปลูกพืชฤดูแล้งได้ด้วย



-เขื่อนขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก บางแห่ง ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำค่อนข้างมาก กอนช. ได้แจ้งเตือนกรมชลประทาน ให้ปรับเกณฑ์เพิ่มการระบายน้ำและต้องเฝ้าระวังหากมีฝนเพิ่มขึ้น โดยจะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดย กอนช. จะมีการประเมินพื้นที่เสี่ยงและแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้บริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์



-กอนช.หารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในเขตกรุงเทพมหานคร ทั้งสถานีสูบน้ำ คลองต่างๆ ฯลฯ การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน กรุงเทพมหานครและกรมชลประทาน มีการเชื่อมโยงการบริหารจัดการน้ำตลอดทุกคลองในเขตกรุงเทพมหานคร ออกสู่แม่น้ำต่าง ๆ พร้อมเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเพื่อรองรับกรณีเกิดฝนตกจำนวนมาก รวมทั้งการกำจัดผักตบชวาและขยะ พล.อ.ประวิตร พร้อมสนับสนุนกำลังพลร่วมดำเนินการอย่างเต็มที่ กรุงเทพมหานคร จะสำรวจพื้นที่เพิ่มเติมและหากต้องการได้รับการสนับสนุน จะแจ้งมาที่ สทนช. เพื่อบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆต่อไป



 



#รับมือฝนเพิ่ม



CR:ข้อมูล-ภาพ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ 



 

ข่าวทั้งหมด

X