ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันพุธ (21ก.ย.65) แกว่งตัวไปมา ก่อนดิ่งลงในช่วง 30 นาทีสุดท้ายของการซื้อขาย นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวการปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบล่าสุดและมุมมองเกี่ยวกับนโยบายในอนาคตของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) หลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด แถลงปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.75% เป็นครั้งที่ 3 สู่ระดับ 3.00%-3.25% เป็นไปตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ก่อนหน้านี้นักลงทุนมองว่ามีโอกาสแค่ 21% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 1.0%
-ดาวโจนส์ ลดลง 522.45 จุด (1.70%) ปิดที่ 30,183.78 จุด
-เอสแอนด์พี ลดลง 66.00 จุด (1.71%) ปิดที่ 3,789.93 จุด
-แนสแดค ลดลง 204.86 จุด (1.79%) ปิดที่ 11,220.19 จุด
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีก ในการประมาณการรอบใหม่ คาดหมายว่าอัตราดอกเบี้ยน่าจะขยับขึ้นไปแตะระดับ 4.40% ในช่วงสิ้นปีนี้ ก่อนขึ้นสู่ 4.60% ในปีหน้า จากเดิมที่เคยคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.65 ว่าน่าจะอยู่ที่ราวๆ 3.4% และ 3.8% ตามลำดับ
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เจ้าหน้าที่เฟด คาดว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2024 ดับความหวังของนักลงทุน ที่ต้องการเห็นเฟดดำเนินการควบคุมเงินเฟ้อได้ในระยะสั้น
ขณะเดียวกัน เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีการขยายตัวเพียง 0.2% ในสิ้นปีนี้ และดีดตัวสู่ระดับ 1.2% ในปี 2023
ความเคลื่อนไหวการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและรัสเซียยกระดับสงครามในยูเครน กระตุ้นให้นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ดันราคาทองคำในวันพุธ(21ก.ย.65) ปิดบวก
-ราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนธ.ค.65 เพิ่มขึ้น 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,675.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
#หุ้นสหรัฐฯดิ่ง
#เฟดขึ้นดอกเบี้ย
CR:Reuters