องค์การสหประชาชาติ (UN)จัดประชุมสมัชชาใหญ่ของยูเอ็น(UNGA)ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์มา 2 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่เผอิญกำหนดประชุมระหว่าง 19-23 กันยายนนี้ ตรงกับกำหนดจัดงานพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรในกรุงลอนดอนเมื่อวานพอดี ผู้นำโลกหลายคน รวมทั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ซึ่งไปร่วมงานพระราชพิธีพระบรมศพ ทยอยกลับเข้าประชุม UNGA ในวันนี้
โดยธรรมเนียมที่ปฏิบัติมาทุกครั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะขึ้นเวทีปราศรัยต่อที่ประชุม UNGA เป็นคนที่ 2 ต่อจากเลขาธิการใหญ่ของยูเอ็น ในวันแรกของการเปิดประชุม แต่การที่นายไบเดนติดภารกิจคือไปเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพในกรุงลอนดอนเมื่อวาน ทำให้ผู้จัดประชุม UNGA เลื่อนกำหนดการขึ้นเวทีปราศรัยของนายไบเดน ไปเป็นวันพรุ่งนี้ (21 กันยายน 2565) นายโจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู)เปิดเผยว่า นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรซ เลขาธิการใหญ่ของสหประชาชาติ (UN) แถลงเปิดประชุม UNGA ครั้งที่ 77 ที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯเมื่อวาน โดยหัวข้อสำคัญของการประชุมปีนี้เช่น การพิจารณาสถานการณ์วิกฤตสำคัญๆของโลก เช่น การบุกยูเครนของรัสเซีย ขณะที่นายกูเตอร์เรซ ขอให้ที่ประชุมให้ความสำคัญกับปัญหาอื่นๆด้วยเช่น ปัญหาด้านการศึกษา
นายกูเตอร์เรซ เห็นว่าระบบการศึกษาในปัจจุบันอยู่ในขั้นวิกฤตร้ายแรงเช่นกันคือ แทนที่ระบบการศึกษาจะเป็นตัวช่วยเสริมสร้างความศักยภาพของคนให้สูงขึ้น กลับกลายเป็นระบบที่สร้างปัญหาแตกแยกในสังคม นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระทบการเรียนรู้ของนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนจากครอบครัวยากจน ขาดแคลนเทคโนโลยี หรือนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่สู้รบ กระทบต่อการศึกษาของเด็กกลุ่มดังกล่าวเช่นเดียวกัน
ส่วนผู้นำอื่นๆที่จะขึ้นเวทีปราศรัยในวันนี้เช่น ประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอันของตุรกี ซึ่งมีบทบาทในการช่วยไกล่เกลี่ยระหว่างรัสเซียกับยูเครน รวมทั้งช่วยให้มีการทำข้อตกลงช่วยให้ยูเครนสามารถส่งออกธัญพืช รวมทั้งข้าวเปลือกสู่ตลาดโลกอีกครั้ง ขณะนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เข้าร่วมประชุมครั้งนี้
อีกประเด็นที่จะอยู่ในหัวข้อที่จะมีการพูดคุยในที่ประชุมยูเอ็นในสัปดาห์นี้ คือ เรื่องอิหร่าน ซึ่งประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซีของอิหร่านจะเข้าร่วมประชุมเป็นครั้งแรก ก่อนเดินทางเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ นายไรซีให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์CBS News ของสหรัฐฯ ระบุว่า อิหร่านต้องการหลักประกันก่อนกลับเข้าร่วมในข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านลงนามกับ 6 ชาติมหาอำนาจรวมทั้งสหรัฐฯในปี 2558 หลังรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำคนก่อนของสหรัฐฯถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลงนั้นในปี 2561
นายไรซี ระบุว่า อิหร่านไม่เชื่อถือรัฐบาลอเมริกัน เป็นเหตุผลที่อิหร่านต้องการหลักประกันจากสหรัฐฯจะไม่มีการถอนตัวออกจากข้อตกลงเป็นครั้งที่สอง แต่รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่สหรัฐฯให้คำมั่นว่า ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯจะดำเนินนโยบายการต่างประเทศไปในทิศทางใด โดยเฉพาะในเรื่องนโยบายเกี่ยวกับอิหร่าน
#ยูเอ็น
#การประชุมสมัชชาใหญ่