สปสช.เตรียมสถานพยาบาลรองรับผู้ป่วย หลังยกเลิกสัญญา 9 รพ.เอกชน

20 กันยายน 2565, 06:26น.


          การดูแลผู้ป่วยที่รักษาอยู่ในโรงพยาบาลเอกชน 9 แห่ง ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ยกเลิกสัญญาบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีผลในวันที่ 1 ต.ค.65



         ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า การยกเลิกสัญญาดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) และคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (อปสข.กทม.) ที่ให้ดำเนินการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เรียกเงินคืน แจ้งสภาวิชาชีพ ยกเลิกสัญญาหน่วยบริการเอกชนทั้ง 9 แห่ง เนื่องจาก ผลการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข พบเอกสารหลักฐานว่า หน่วยบริการเอกชนทั้ง 9 แห่งมีการเบิกค่าคัดกรองเมตาบอลิกไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงเป็นที่มาการยกเลิกสัญญาเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ และหน่วยบริการรับส่งต่อในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั้ง 9 แห่ง ประกอบด้วย  



-รพ.มเหสักข์



-รพ.บางนา 1



-รพ.ประชาพัฒน์



-รพ.นวมินทร์



-รพ.เพชรเวช



-รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท 2



-รพ.แพทย์ปัญญา



-รพ.บางมด



-รพ.กล้วยน้ำไท



        โรงพยาบาลทั้ง 9 แห่งนี้ ดูแลประชากรปฐมภูมิ 220,313 คน ข้อมูลจากปี 64 ทั้งปี และปี 65 (9 เดือน) พบว่ามีประชากรใช้บริการ 99,947 คน คิดเป็น 45.36% ดูแลประชากรรับส่งต่อ 696,103 คน ในจำนวนนี้จากข้อมูล 6 เดือนล่าสุดพบว่า มีประชากรใช้บริการ 18,200 คน หรือประมาณร้อยละ 2.61% ขณะเดียวกันมีผู้ป่วยโรคเรื้อรังจำนวน 22,246 คน



        สปสช.ได้เตรียมความพร้อมรองรับ ดังนี้



1.กลุ่มผู้ป่วยในที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง รักษาต่อไปเช่นเดิม จนกว่าจะสิ้นสุดการรักษา โดยโรงพยาบาลจะยังได้รับค่าใช่จ่ายในการรักษาพยาบาลจาก สปสช.



2.กลุ่มผู้ป่วยที่มีนัดรักษาหลังวันที่ 1 ต.ค.65 ได้แก่ นัดผ่าตัดต่างๆ หญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอดที่มีนัดทำคลอด ผู้ป่วยมะเร็งที่มีนัดรังสีรักษาและเคมีบำบัด ผู้ป่วยที่มีนัดตรวจอัลตร้าซาวด์ นัดตรวจซีทีสแกน (CT Scan) นัดตรวจ MRI ผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเร่งด่วน ในวันนี้ (20 ก.ย.65) สปสช.นัดหมายประชุมกับโรงพยาบาลเอกชนทั้ง 9 แห่ง ให้รักษาตามที่ได้นัดหมายต่อไป รวมถึงกรณีที่ผู้ป่วยถูกส่งต่อจาก โรงพยาบาลทั้ง 9 แห่งนี้ไปรักษาที่อื่น เช่น นัดตรวจและฟังผลอัลตร้าซาวด์อีกโรงพยาบาลหนึ่ง ก็ใช้สิทธิได้เหมือนเดิมไปก่อนจนถึงวันที่ 31ธ.ค.65 โดยเบิกจ่ายค่ารักษาจาก สปสช. ตามประกาศเหตุอันสมควร เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ป่วย และในระหว่างนี้ หากมีนัดหมายต่อไป สปสช.ได้ประสานโรงพยาบาลแห่งใหม่ไว้เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับรักษาต่อเนื่อง และจะประสานผู้ป่วยโดยตรงต่อไป



3.กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมองฯลฯ ที่มีนัดตรวจติดตามอาการและรับยาต่อเนื่องหลังวันที่ 1 ต.ค.65 ไปรักษาที่คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรม และศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านที่ไหนก็ได้ สปสช.จัดเตรียมรายชื่อหน่วยบริการเพื่อให้ทราบว่าไปที่ไหนได้บ้าง ผู้ป่วยสามารถไปติดต่อที่หน่วยบริการดังกล่าวได้เอง หรือ โทร.มาที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 6 เพื่อสอบถามรายชื่อหน่วยบริการใกล้บ้านที่สามารถไปรักษาได้และให้สายด่วน 1330 ประสานการรักษาต่อได้



4.ผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยวัณโรคที่ต้องรับยาต่อเนื่อง ไปรักษาที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง หรือโรงพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน ในส่วนของผู้ติดเชื้อเอชไอวี สามารถไปรับยาและตรวจติดตามอาการได้ที่หน่วยบริการที่ให้บริการได้ เช่น ศูนย์บริการสาธารณสุข ศูนย์การแพทย์บางรัก (คลินิกบางรัก) สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) และพริบตา แทนเจอรีน สหคลินิก เป็นต้น



5.ผู้ป่วยไตที่มีนัดฟอกไตกับทั้ง 9 โรงพยาบาลเอกชนนี้ และผู้ป่วยที่มีนัดผ่าตัดหัวใจ สวนหัวใจ ใส่บอลลูน ใส่สเต็นท์ ยังคงรับบริการได้ตามนัดเหมือนเดิม เนื่องจาก การยกเลิกสัญญาไม่ได้รวมถึงการให้บริการด้านฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และบริการด้านการทำหัตถการรักษาโรคหลอดเลือดโคโรนารีผ่านสายสวน



-กรณีผู้ที่ยังไม่ป่วยหรือไม่ใช่ผู้ป่วยรักษาต่อเนื่อง ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ระหว่างนี้ขอให้ตรวจสอบสิทธิการรักษา ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ



(1.)ผู้ที่สถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาเบื้องต้น (หน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ) และสถานพยาบาลที่รับการส่งต่อ (หน่วยบริการรับส่งต่อทั่วไป) เป็น 1 ใน 9 โรงพยาบาลเอกชน ขอให้ลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการแห่งใหม่ที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือใกล้บ้าน ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง คลินิกชุมชนอบอุ่น 214 แห่ง และหน่วยบริการปฐมภูมิของโรงพยาบาลต่างๆ โดยลงทะเบียนเลือกได้ทางแอปพลิเคชัน สปสช. อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ไม่มีหน่วยบริการในเขตพื้นหรือใกล้บ้านให้เลือกลงทะเบียน ขออย่ากังวลใจ เพราะขณะนี้ สปสช.อยู่ระหว่างการเร่งจัดหาหน่วยบริการเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 เป็นต้นไป หากเกิดภาวะเจ็บป่วยยังใช้สิทธิบัตรทองรักษาได้ โดยเข้ารับบริการที่ทุกหน่วยบริการปฐมภูมิทุกแห่งในระบบบัตรทอง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย



2.ผู้ที่สถานพยาบาลเข้ารับการรักษาเบื้องต้น (หน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ) เป็นคลินิกเอกชนหรือศูนย์บริการสาธารณสุข ที่ไม่ใช่โรงพยาบาล 9 แห่งนี้ และมีสถานพยาบาลที่รับการส่งต่อ (หน่วยบริการรับส่งต่อทั่วไป) ระบุว่า เป็น 1 ใน 9 โรงพยาบาลเอกชน เมื่อเจ็บป่วยยังคงเข้ารับการรักษาได้ตามรายชื่อสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาเบื้องต้นตามสิทธิได้เช่นเดิม กรณีที่จะต้องถูกส่งต่อไปรักษายังสถานพยาบาลอื่น สปสช.ได้ประสานงานให้ส่งต่อไปยังสถานพยาบาลที่ได้จัดหาเพิ่มให้



         นอกจากนี้ สปสช.มีบริการทางเลือกใหม่เตรียมรองรับไว้ ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยระบบการแพทย์ทางไกล การคัดกรองโรคและดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อยกับร้านขายยา คลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาล ที่ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองไปรักษาได้ ซึ่งจะเปิดนอกเวลาเพื่อบริการผู้ป่วย วันพุธที่ 21 ก.ย.65 สปสช.มีประชุมกับคลินิกชุมชนอบอุ่น 214 แห่ง และหน่วยบริการเฉพาะด้านในพื้นที่ กทม. เช่น ด้านเวชกรรม 40 แห่ง ด้านกายภาพบำบัด 9 แห่ง ด้านการพยาบาลและการผดุงครรภ์ 9 แห่ง ด้านทันตกรรม 29 แห่ง และร้านยา 517 แห่ง เพื่อหารือการดูแลรักษาผู้ป่วยในกลุ่มนี้ต่อไป ซึ่งหลังจากนี้จะประชาสัมพันธ์ขั้นตอนการไปรักษาพยาบาลให้ทราบต่อไป



          การอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองทั้ง 9 โรงพยาบาล สปสช.ได้เปิดสายด่วน 1330 กด 6 เพื่อให้ผู้ป่วยติดต่อประสานงาน ขอให้ประชาชนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเอกชนทั้ง 9 แห่งไม่ต้องกังวลใจ สปสช.ได้เตรียมความพร้อมไม่ให้กระทบกับผู้ป่วยไว้แล้ว



           ตรวจสอบสิทธิการรักษา



-เว็บไซต์ สปสช. https://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml



-ไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso



-หรือคลิกลิงค์ https://lin.ee/zzn3pU6 เลือกเมนูตรวจสอบสิทธิ หรือแอปพลิเคชัน สปสช. เลือกเมนูตรวจสอบสิทธิตนเอง



           ดูรายชื่อหน่วยบริการที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ



-เว็บไซต์ สปสช. https://www.nhso.go.th/page/hospital



-เว็บไซต์ Nostra map https://map.nostramap.com/NostraMap/ หรือแอปพลิเคชัน Nostra Map เลือกชั้นข้อมูลที่เขียนว่า รายชื่อสถานพยาบาลในระบบ สปสช.



(เลือกประเภทการขึ้นทะเบียนที่ระบุว่า บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป หรือหน่วยบริการประจำ)



         สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่



1.สายด่วน สปสช. 1330 กด 6



2.ช่องทางออนไลน์



-ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6



-Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand



-ไลน์ ทราฟฟี่ ฟองดูว์ พิมพ์ไลน์ไอดี @traffyfondue หรือคลิก https://lin.ee/nwxfnHw



 



#สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ



#ยกเลิกสัญญา9โรงพยาบาลเอกชน



CR:สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ



 



 

ข่าวทั้งหมด

X