*องคมนตรี ติดตามการพัฒนาโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป ทำให้เกษตรกรอ.เต่างอย จ.สกลนคร มีชีวิตที่ดีขึ้น*

วันสุดท้ายของการลงพื้นที่ของนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี พร้อมคณะของเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหรือ (กปร.)  มาศึกษาดูงานการดำเนินงานของโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) ในพื้นที่ตำบลเต่างอย อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร

นางจำลอง ยอดสุรินทร์ ผู้จัดการโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) บรรยายว่า จากโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) เป็นโครงการในพระราชดำริฯ ที่เปิดมาแล้วตั้งแต่ปี 2525 แต่เดิมใช้เพื่อผลิตน้ำมะเขือเทศเข้มข้น และแปรรูปผลไม้ทางการเกษตรชนิดอื่นๆ แต่เนื่องจากเปิดมานานกว่า 30ปี อาคารโรงงานก็เสื่อมโทรม และการบริหารจัดการยังไม่เป็นระบบที่ทันสมัย ก็ทำให้มีการผลิตที่ได้ปริมาณไม่มาก  หลังจากนั้น ได้มีการปรับปรุงให้มีความทันสมัย นำระบบการดำเนินการให้มีความทันสมัยมาใช้และเริ่มเปิดดำเนินการในรูปแบบใหม่ เมื่อปีที่แล้ว พื้นที่ในโรงงานมีทั้งหมด 22ไร่ เป็นพื้นที่ตัวโรงงาน 15ไร่ และเป็นอาคารสำนักงาน และแปลงตัวอย่าง 7ไร่ โดยมีการพัฒนารูปแบบการดำเนินการใหม่ พร้อมกับ สนับสนุนให้ความรู้ส่งเสริมพืชพันธุ์ทางการเกษตรแก่เกษตร 3ชนิด คือ มะเขือเทศ ,กระเจี๊ยบแดง ,มัลเบอร์รี่ หรือ หม่อน รวมถึงรับซื้อผลผลิตเหล่านี้จากเกษตรกรเพื่อมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่มและผลไม้อบแห้ง รวมถึงช่วงนอกฤดูกาลก็ยังรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกรสมาชิกของโครงการฯ เช่น มะม่วง ,กระท้อน และผลไม้ชนิดอื่นๆ เพื่อนำมาแปรรูปอีกด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) เปิดเริ่มดำเนินการ ในรูปแบบใหม่ตั้งแต่ปี 2557 สินค้าหลักก็คือการส่งเสริมการแปรรูปมะเขือเทศ โดยมีพื้นที่การส่งเสริมปลูกมะเขือเทศจำนวน 5,138ไร่ ในจังหวัดสกลนคร ,นครพนม ,กาฬสินธุ์ ,มุกดาหาร ,บึงกาฬ โดยมีเกษตรกรสมาชิกผู้ปลูกมะเขือเทศที่เข้าร่วมโครงกว่า 2,000ราย ซึ่งมีเป้าหมายวัตถุดิบ 20,000ตันต่อปี  นอกจากนี้ โรงงานแห่งนี้ก็ยังส่งเสริมการพัฒนาชุมชน ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น  เช่น มีระบบการบำบัดน้ำที่มีคุณภาพ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของชุมชน รวมถึงส่งเสริมกิจกรรมในชุมชน ของ วัด และโรงเรียน และโรงงานแห่งนี้ก็มีคนในชุมชนเข้าทำงานเป็นพนักงานหลักทั้งหมด นอกจาก โครงการในพระราชดำริฯ นี้ จะเป็นโครงการที่ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรให้มีรายได้อย่างมั่นคงแล้ว ก็ยังเป็นแหล่งสร้างงานให้แก่คนในชุมชนอย่างยั่งยืน

วิรวินท์