ธนาคารโลก เตือน แบงก์ทั่วโลกขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลปีหน้า เศรษฐกิจโลกถดถอย

          ธนาคารโลก เผยแพร่รายงานใหม่ เรื่อง ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจทั่วโลก ใกล้จะเกิดขึ้นหรือยัง? โดยระบุว่า การที่ธนาคารกลางจากทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่สูงขึ้นในปีนี้ อาจจะส่งผลให้เกิดภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกในปีหน้า ระบุว่า ที่ผ่านมา ธนาคารกลางทั่วโลก ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ เศรษฐกิจโลกในตอนนี้ ตกต่ำหนักที่สุดนับแต่ปี 2513

          แม้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมุ่งหมายเพื่อลดความต้องการกู้ยืมเงินธนาคารของลูกค้ารายย่อยและลูกค้าประเภทบริษัท ซึ่งจะช่วยควบคุมเงินเฟ้อในระยะยาว แต่ปัญหาอีกด้านหนึ่งคือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีผลให้การกู้ยืมเงินธนาคารมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นสำหรับลูกค้าของธนาคาร จะทำให้การกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนน้อยลง กระทบต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

          โดยเฉพาะในปีนี้ 3 กลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของโลกคือ สหรัฐฯ จีนและเขตยูโรโซน มีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ซึ่งธนาคารโลก เตือนว่า ภายใต้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปราะบางเช่นนี้ ถ้ามีปัจจัยลบมากระทบซ้ำอีกสักเล็กน้อย มีแนวโน้มสูงมากที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวในปีหน้า พร้อมเสนอแนะธนาคารกลางทั่วโลกให้ประสานความร่วมมือในเรื่องนโยบายอัตราดอกเบี้ย ให้ติดต่อสื่อสารอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่สูงจนเกินไป

          ที่ผ่านมา ธนาคารกลางของทั่วโลกเคยประสานนโยบายการเงิน เช่น หลังวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ หรือวิกฤตสินเชื่อด้อยคุณภาพในสหรัฐฯในปี 2551 นำไปสู่การล้มละลายของวาณิชธนกิจ เลห์แมนบราเธอร์ส ของสหรัฐฯในเดือนกันยายนปีเดียวกัน อีกหนึ่งเดือนต่อมา ธนาคารกลางของสหรัฐฯ พร้อมธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางสวีเดน และ ธนาคารกลางของสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมใจกันปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาอยู่ในอัตราที่ต่ำ เพื่อช่วยประคับประคองเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว

#ธนาคารโลก

#การขึ้นอัตราดอกเบี้ย

#ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก