ธนาคารกลางจีน ประกาศคงอัตราดอกเบี้ย หยุดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน

          คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีน (the People's Bank of China : PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ตามความคาดหมายที่ร้อยละ 2.75 ในวันนี้ (15 ก.ย.) พร้อมส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ในการประชุมสัปดาห์หน้า (20 ก.ย.)

          และให้อัดฉีดสภาพคล่องมูลค่า 400,000 ล้านหยวน (ประมาณ 2 ล้าน 1 แสนล้านบาท) ผ่านเครื่องมือด้านการเงิน โดยให้อัดฉีดสภาพคล่องมูลค่า 2,000 ล้านหยวน (ประมาณ 10,500 ล้านบาท) ผ่านทางข้อตกลงขายคืนพันธบัตรกลับสู่ตลาดเงินเพื่อดึงสภาพคล่องออกจากตลาด (reverse repurchase) เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศให้ฟื้นตัว หลังจากที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์

          เมื่อเดือนสิงหาคม ธนาคารกลางของจีน สร้างความประหลาดใจด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งเป็นการขยายความแตกต่างจากนโยบายธนาคารประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ที่ใช้นโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสู้กับปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งธนาคารกลางจีน ระบุในระหว่างการแถลงข่าวออนไลน์ ว่ามาตรการเหล่านี้ จะทำให้ระบบธนาคารมีสภาพคล่องเพียงพอ

          เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ธนาคารกลางจีน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง ลงสู่ระดับร้อยละ 2.75 จากนั้นในวันที่ 22 สิงหาคม ลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี ประเภท 1 ปีลงมาที่ระดับร้อยละ 3.65

          และปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี ประเภท 5 ปีลงสู่ระดับร้อยละ 4.30

          นักยุทธศาสตร์อาวุโสของจีนที่ธนาคารออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ (ANZ) วิเคราะห์ว่า การหยุดผ่อนคลายทางการเงินในเดือนนี้แสดงให้เห็นว่าทางการระมัดระวังการอ่อนค่าของเงินหยวน และอาจจะยังคงรักษาสภาพคล่องให้เพียงพอ ในระดับที่ค่อนข้างสูง ในขณะที่อาศัยการคืนภาษีและรายจ่ายทางการคลังเพื่อชดเชยการอัดฉีดกองทุนเพิ่มเติม โดยมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารจะลดอัตราส่วนความต้องการสำรองของธนาคาร (reserve requirement ratio : RRR) ในระดับเล็กน้อยในเดือนตุลาคมเพื่อชดเชยการชำระภาษีรายไตรมาส หลังจากที่เงินหยวนอ่อนค่าลงไปแล้วมากกว่า ร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม

…

#ธนาคารกลางจีน

#คงอัตราดอกเบี้ย