กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) ประกาศ ฉบับที่ 39/2565 เรื่อง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและน้ำท่วมขังในช่วงวันที่ 17 - 20 ก.ย.65 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ กอนช. ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ ในช่วงวันที่ 17-21 ก.ย.65 ดังนี้
1. เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง ดังนี้
1.1 ภาคเหนือ
-จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอเวียงแหง และอมก๋อย)
-จังหวัดแพร่ (อำเภอร้องกวาง)
-จังหวัดน่าน (อำเภอบ่อเกลือ และปัว)
-จังหวัดลำปาง (อำเภอเกาะคา เมืองลำปาง และแจ้ห่ม)
-จังหวัดแพงเพชร (อำเภอคลองลาน)
-จังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง พบพระ วังเจ้า แม่สอด เมืองตาก อุ้มผาง และแม่ระมาด)
-จังหวัดอุตรดิตถ์ (ฟากท่า)
-จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอนครไทย และชาติตระการ)
-จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอหล่มสัก เมืองเพชรบูรณ์ และวิเชียรบุรี)
1.2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
-จังหวัดเลย (อำเภอวังสะพุง)
-จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอโซ่พิสัย)
-จังหวัดขอนแก่น (อำเภอบ้านฝาง หนองเรือ พระยืน เมืองขอนแก่น และมัญจาคีรี)
-จังหวัดกาฬสินธุ์ (อำเภอยางตลาด)
-จังหวัดชัยภูมิ (อำเภอคอนสาร และหนองบัวแดง)
-จังหวัดอำนาจเจริญ (อำเภอชานุมาน และเสนางคนิคม)
-จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอเขมราฐ พิบูลมังสาหาร สว่างวีระวงศ์ เมืองอุบลราชธานี และดอนมดแดง)
-จังหวัดยโสธร (อำเภอมหาชนะชัย)
-จังหวัดศรีสะเกษ (อำเภอราษีไศล)
-จังหวัดนครราชสีมา (อำเภอโนนไทย เมืองนครราชสีมา และโนนสูง)
1.3 ภาคกลาง
-จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอสังขละบุรี)
-จังหวัดราชบุรี (อำเภอบ้านคา)
1.4 ภาคตะวันตก
-จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอหัวหิน)
-จังหวัดเพชรบุรี (อำเภอหนองหญ้าปล้อง และแก่งกระจาน)
1.5 ภาคตะวันออก
-จังหวัดจันทบุรี (อำเภอขลุง แหลมสิงห์ ท่าใหม่ เมืองจันทบุรี และนายายอาม)
-จังหวัดตราด (อำเภอเกาะกูด คลองใหญ่ เมืองตราด เกาะช้าง แหลมงอบ เขาสมิง)
2. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ของแม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำชี แม่น้ำมูล แม่น้ำนครนายก แม่น้ำปราจีนบุรี แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำระยอง แม่น้ำจันทบุรี และแม่น้ำตราด
3. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) 13 แห่ง ได้แก่
-อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล จังหวัดเชียงใหม่
-อ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมา กิ่วลม และแม่มอก จังหวัดลำปาง
-อ่างเก็บน้ำทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี
-อ่างเก็บน้ำกระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรี
-อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
-อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ลำพระเพลิง และมูลบน จังหวัดนครราชสีมา
-อ่างเก็บน้ำคลองสียัด จังหวัดฉะเชิงเทรา
-อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี
-อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จังหวัดระยอง
รวมทั้งอ่างฯ ขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำทั่วประเทศ
การเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้
1. ติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ
2. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ปรับแผนระบายน้ำจากเขื่อนและประตูระบายน้ำ เพื่อพร่องน้ำและบริหารพื้นที่ลุ่มต่ำให้เป็นแก้มลิงหน่วงน้ำ เพื่อลดผลกระทบจากมวลน้ำที่จะไหลหลากมายังบริเวณพื้นที่เสี่ยง
3. เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที
4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันทีหากเกิดสถานการณ์
#ฝนตกหนัก
#น้ำท่วม
CR:กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ