จากสถานการณ์อุทกภัยที่ทำให้มีประชาชนได้รับผลกระทบจำนวนมาก กองทัพเรือจัดส่งเรือผลักดันน้ำ 20 ลำ ลงพื้นที่อำเภอแกลง จ.ระยอง เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล เตรียมความพร้อม กำลังพล ยุทโธปกรณ์ ให้การสนับสนุนการป้องกันตลอด 24 ชม. โดยในวันนี้ (11 ก.ย.) พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เป็นประธานในพิธีส่งขบวนรถลำเลียงเรือผลักดันน้ำจำนวน 20 ลำ เดินทางจากอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ไปจังหวัดระยอง
ทั้งนี้ จังหวัดระยอง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแกลง ยังมีน้ำท่วมในระดับสูงและมีแนวโน้มที่สถานการณ์จะส่งผลกระทบต่อประชาชนเพิ่มมากขึ้น จึงต้องเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำประแสร์อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือเตรียมเรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือให้มีความพร้อม ตลอดจนลำเลียงเรือผลักดันน้ำจำนวน 20 ลำ พร้อมกำลังพล ไปยังจังหวัดระยองตามที่ได้รับการร้องขอจากทางจังหวัด
โดยเรือผลักดันน้ำทั้ง 20 ลำ ได้ลำเลียงออกจากอู่ทหารเรือ ป้อมพระจุลจอมเกล้า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ และคาดว่าจะเดินทางถึงจังหวัดระยองในวันช่วงบ่าย จากนั้นจะติดตั้งที่บริเวณสะพานทะเลน้อย-ท่ากะพัก ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง โดยตัวสะพานมีความยาวประมาณ 170 เมตร ใช้ข้ามแม่น้ำประแสร์ อยู่ห่างจาก อ.แกลง ประมาณ 9 กิโลเมตร
สำหรับเรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือนั้นได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำหลาก มาตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งแนวความคิดนี้ปัจจุบันกรมชลประทานได้นำไปดัดแปลงระบบเพื่อใช้แก้ไขปัญหาระบบน้ำทั่วประเทศ และจากองค์ความรู้ในการสร้างเรือผลักดันน้ำที่คงมีอยู่ทำให้กองทัพเรือสร้างเรือผลักดันน้ำขึ้นใหม่เพื่อให้ทันต่อการนำไปใช้ในพื้นที่ประสบอุทกภัยในปี 2554 ทั้งยังสนองต่อพระราชดำริแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการนำอุปกรณ์เครื่องยนต์ที่มีอยู่เดิมมาผลิตและพัฒนาขึ้นใหม่เป็น 3 ขนาด คือ ขนาด 320 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 150,000 ลูกบาศก์เมตร/วันขนาด 220 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 100,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน และขนาด 120 แรงม้า ผลักดันน้ำได้ 30,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน เรือผลักดันน้ำนับว่าเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ครั้งละปริมาณมาก อีกทั้งยังสามารถชะล้างไล่ดินเลนที่ตกตะกอนอยู่ก้นแอ่งให้หมดไป ทำให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่งเป็นบึงและคอขวด เนื่องจากเป็นที่ลุ่มระบายน้ำออกได้ลำบากและไหลได้ไม่เร็ว
นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยพื้นที่ต่างๆ ของกองทัพเรือ รวมทั้งหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติเชิงรุกทั้งด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธีให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนได้ทันที โดยบูรณาการและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้มีการสำรวจความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งติดตามการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง.
...
#กองทัพเรือ
#น้ำท่วมระยอง