ศาลฎีกา นัดอ่านคำพิพากษา คดีที่นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายการุณ โหสกุล อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยตามความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีการให้สัมภาษณ์ว่า นายสมเกียรติ ใช้ถ้อยคำหยาบคาย หลังเกิดเหตุการณ์ใช้กำลังทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกันที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2551โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา จำคุกนายการุณ 12 เดือน และปรับ 40,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้ลงโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์รายวัน 3 ฉบับ ซึ่งต่อมานายการุณได้ยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้องเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2556
ขณะที่วันนี้ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การให้สัมภาษณ์ของนายการุณ เป็นทำนองแก้ตัวว่าไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่โจทก์กล่าวโทษ เป็นการกระทำโดยเจตนาให้บุคคลที่สามเกลียดชังโจทก์ บิดเบือนใส่ความ ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็น จากที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษากลับให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำคุก 12 เดือน ปรับ 40,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้ลงโฆษณาคำพิพากษาลงในหนังสือพิมพ์รายวัน 3 ฉบับ เป็นเวลา 3 วัน
หลังการฟังพิพากษา นายการุณ กล่าวว่า การกระทบกระทั่งกันระหว่างตนเองกับนายสมเกียรติ ก็เป็นเรื่องปกติ เหมือนลิ้นกับฟัน ที่ผ่านมาก็ขอให้ผ่านไป และเวลาพบกับนายสมเกียรติ ก็ทักทายกันปกติ เพราะคดีความก็ถือว่าจบแล้ว หลังจากนี้จะปฏิบัติตามคำพิพากษา