หลังศาลสูงสุดของมาเลเซีย พิพากษายืนตามคำตัดสินของศาลชั้นอุทธรณ์เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมปีที่แล้ว ให้จำคุกอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค 12 ปี จากความผิด 7 ข้อหาในคดีทุจริตเกี่ยวกับกองทุน 1MDB ของรัฐ และให้จ่ายค่าปรับ 210 ล้านริงกิต ซึ่งต่อมา นายนาจิบ ใช้สิทธิ์ยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษต่อสมเด็จพระราชาธิบดีอัล-สุลต่าน อับดุลเลาะห์ กษัตริย์แห่งมาเลเซียเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หรือ 14 วัน หลังการตัดสินของศาลสูงของมาเลเซีย นายอัซฮาร์ อาซิซัน ฮารุน ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย เปิดเผยว่า นายราซัค ยังคงมีสถานะเป็นส.ส.เมืองเปอกัน รัฐปะหัง จนกว่าขั้นตอนการพิจารณาพระราชทานอภัยโทษดำเนินการเสร็จแล้ว
นายอัซฮาร์ กล่าวว่า หากกษัตริย์แห่งมาเลเซียมีพระราชวินิจฉัยให้ยกฎีกา คือ ไม่พระราชทานอภัยโทษ สถานะการเป็นส.ส.ของนายนาจิบ จะสิ้นสุดทันที ตามกฎหมายของมาเลเซีย สมาชิกภาพการเป็นส.ส.จะสิ้นสุด ถ้าหากคดีถึงที่สุด โดยศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกกว่าหนึ่งปี หรือถูกปรับไม่ต่ำกว่า 2,000 ริงกิต (หรือ 445 ดอลลาร์สหรัฐฯ) เว้นแต่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ
ก่อนหน้านี้ นายนาจิบ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 2552-2561 ถูกดำเนินคดีต่อในข้อหายักยอกเงินของรัฐ โดยโอนเงิน 42 ล้านริงกิตจากบริษัทย่อยของกองทุน 1MDB คือ บริษัทเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล มาเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ระหว่างปี 2557-2558
#มาเลเซีย
#คดีทุจริตอดีตนายกรัฐมนตรี
#ยื่นฎีกาขออภัยโทษ