ผลสำรวจชี้ หลายประเทศทั่วโลกมีความเสี่ยงเกิดเหตุความไม่สงบเพิ่มขึ้น

03 กันยายน 2565, 07:28น.


          เวริสก์ เมเพิลครอฟต์ (Verisk Maplecroft) บริษัทที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ระดับโลกจากอังกฤษ เผยแพร่รายงานดัชนีความไม่สงบ (Civil Unrest Index : CUI) ซึ่งพบว่า 101 ประเทศทั่วโลก จาก 198 ประเทศที่มีการสำรวจ มีความเสี่ยงที่จะเกิดสถานการณ์ความไม่สงบในไตรมาส 3 ของปีนี้ สืบเนื่องมาจากปัญหาเงินเฟ้อ จากราคาอาหารและพลังงาน



          มีเพียง 42 ประเทศเท่านั้นที่มีความเสี่ยงของเหตุการณ์ลดลงในช่วงที่ทำการสำรวจ



          ส่วนที่เหลือยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน บริษัทเชื่อมโยงความเสี่ยงจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เพิ่มขึ้นกับผลกระทบของเงินเฟ้อที่มีต่อราคาอาหารหลักและพลังงาน



          รายงานฉบับนี้ เป็นการรวบรวมชุดของการสำรวจที่มีการประเมินปัจจัยสำคัญ เช่น อัตราเงินเฟ้อและกลไกของรัฐบาลในการเอาชนะหรือระงับความขัดแย้ง ตลอดจนผลกระทบโดยรวม ซึ่งยังพบว่า จำนวนประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ยังมีจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2559 ประเทศเหล่านี้ มีอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าร้อยละ 6 ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและสังคมกำลังถึงระดับวิกฤต โดยบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และยูเครน คือประเทศที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นมากที่สุด



          ประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วและกลุ่มตลาดเกิดใหม่กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ร่วมด้วยผลกระทบจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครน โดยในกลุ่มประเทศยุโรป ยังมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเกิดความไม่สงบ เนื่องมาจากปัญหาขาดแคลนพลังงานในฤดูหนาว



          ส่วนกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีปัญหาราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตอาหารทั่วโลก ภัยคุกคามนี้มีแนวโน้มที่จะขยายตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ในกลุ่มประเทศที่คาดว่าจะเกิดสถานการณ์ในระดับรุนแรง ยังได้แก่ศรีลังกาซึ่งมีการประท้วงปัญหาขาดแคลนเชื้อเพลิง และการบริหารประเทศที่ผิดพลาดนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลในปีนี้



          สำหรับแนวโน้มของเหตุการณ์ไม่สงบที่อาจเกิดขึ้น จะมีทั้งการชุมนุมประท้วง และการนัดหยุดงาน ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้ว สถานการณ์นี้อาจทำลายโครงสร้างทางสังคมของประเทศ นางจีเมนา บลังโก หัวหน้านักวิเคราะห์ของเวริสก์ เมเพิลครอฟต์ กล่าวว่า เหตุการณ์เหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน ในกรณีเลวร้ายที่สุดนั้น ประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่อาจเกิดเหตุจลาจล การปล้น และความพยายามในการโค่นล้มรัฐบาล โดยแนวทางการแก้ไขปัญหามีเพียงการปรับลดราคาอาหารและพลังงานลง



....



#ดัชนีความไม่สงบ

ข่าวทั้งหมด

X