นายโมฮัมเหม็ด ไซนี มัซลัน ผู้พิพากษาศาลสูงในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งรับผิดชอบการพิจารณาคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องกล่าวหานางโรสมาห์ มานซอร์ อายุ 70 ปี ภริยาของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคของมาเลเซีย ทุจริตในโครงการติดตั้งแผงโซลาเซลล์ในรัฐซาราวัค มีคำตัดสินในวันนี้ว่า ศาลมีคำตัดสินให้จำคุก 10 ปีสำหรับนางโรสมาห์จากความผิด 3 ข้อหา ข้อแรกคือ การเสนอให้ผู้รับเหมาคือ นายไซดี อาบัง ซัมซุดดิน จ่ายสินบน 187.5 ล้านริงกิต (หรือ 41.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) แลกการช่วยให้บริษัทเจพัก โฮลดิงส์ ของนายไซดี ชนะการประมูลงานในโครงการของรัฐมูลค่า 1,250 ล้านริงกิต เพื่อติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตกระแสไฟฟ้าในโรงเรียน 369 แห่งในรัฐซาราวัค ในปี 2559-2560
อีกทั้งรับเงินสินบนด้วยตนเอง 2 ครั้ง ครั้งแรกจำนวน 1.5 ล้านริงกิต และครั้งที่สอง 5 ล้านริงกิต ซึ่งนายไซดีได้นำเงินสินบนไปจ่ายให้เธอที่บ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และที่บ้านพักส่วนตัวในกรุงกัวลาลัมเปอร์ระหว่างเดือนธันวาคม 2559-กันยายน 2560
คดีนี้อัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 แต่มีการขอเลื่อนคดีเรื่อยมาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งปัญหาสุขภาพของนางโรสมาห์ และพยานปากสำคัญคนหนึ่งกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 จนกระทั่งต้นปีนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดในมาเลเซียเริ่มคลี่คลาย ศาลเริ่มไต่สวนคดีอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลา 42 วัน เสร็จการไต่สวนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นอกจากนี้ เธอยังมีคดีอื่นๆอีก 17 คดีเช่น คดีฟอกเงินและเลี่ยงภาษี ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งเธอให้การปฏิเสธทุกคดี
ส่วนคดีทุจริตของนายนาจิบ ศาลอุทธรณ์ของมาเลเซียตัดสินเมื่อวันอังคารที่แล้ว ยืนตามคำตัดสินของศาลชั้นต้นให้จำคุกนายนาจิบ 12 ปีจากความผิดอาญา 7 ข้อหาในคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตในกองทุน 1MDB ของรัฐบาลมาเลเซีย นอกจากนี้ นายนาจิบยังมีคดีอาญาอื่นๆอีก 4 คดีที่ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล
#มาเลเซีย
#คดีทุจริต