UNHCR ยืนยันมีหลักฐานว่า จีน ก่ออาชญากรรมร้ายแรงต่อชาวอุยกูร์ เรียกร้องให้ปล่อยตัวทุกคน

01 กันยายน 2565, 15:33น.


          นายโอเมอร์ คานัต ผู้อำนวยการโครงการสิทธิมนุษยชนอุยกูร์ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ(UNHCR)เปิดเผยว่า UNHCR กล่าวหา ประเทศจีนว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงในรายงานเกี่ยวกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ มณฑลซินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ที่เผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยระบุว่า คณะผู้สอบสวนของ UNHCR มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า มีการทรมานชนกลุ่มน้อยในจีน เข้าข่ายความผิดฐานก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ พร้อมเสนอให้รัฐบาลจีนปล่อยตัวชนกลุ่มน้อยทุกคนที่ถูกขังในค่ายกักขังในมณฑลซินเจียง ให้คืนอิสรภาพให้กับผู้ถูกกักขังทุกคนโดยเร็ว



          UNHCR กล่าวหาจีนใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติมาเป็นเครื่องมือในการลิดรอนสิทธิของชนกลุ่มน้อยในจีน เช่นการตั้งค่ายกักขังชนกลุ่มน้อย ทั้งบังคับชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ให้วางแผนครอบครัวตามนโยบายควบคุมอัตราการเกิดของทารกใหม่ในจีน ซึ่งในปัจจุบัน รัฐบาลจีน ส่งเสริมให้สามี-ภรรยาชาวจีนมีบุตรไม่เกิน 3 คน ทั้งนี้ UNHCR เผยแพร่รายงานเรื่องนี้เมื่อวานนี้ ที่เป็นวันสุดท้ายของการทำงานของนางมิเชล บาเชเลต์ ในฐานะข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ครบวาระ 4 ปี



          แม้ว่า UNHCR ไม่แน่ใจเรื่องตัวเลขชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ที่ถูกขังในค่ายกักกันในมณฑลซินเจียง แต่องค์กรสิทธิมนุษยชนส่วนใหญ่ คาดว่า ในปัจจุบัน อาจจะมีชาวอุยกูร์กว่า 1 ล้านคนจากจำนวนชาวอุยกูร์รวม 12 ล้านคนในมณฑลซินเจียง ถูกขังในค่ายกักกันชนกลุ่มน้อย



           ด้านคณะผู้แทนจีนประจำคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ปฏิเสธข้อกล่าวหา ระบุว่า เป็นเรื่องเหลวไหล กล่าวหา ชาติตะวันตกเสนอให้มีการจัดทำรายงานนี้ขึ้นมา หวังทำลายภาพลักษณ์ของจีนให้เสียหายในสายตาของชาวโลก ระบุว่า เป็นการเข้ามาก้าวก่ายกิจการภายในของจีน พร้อมชี้แจงว่า การจัดตั้งค่ายกักขังผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายในมณฑลซินเจียง เพื่ออบรมอาชีพ ลดปัญหาก่อการร้ายในท้องถิ่น



 



#UNHCR



#รายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน



#ชาวอุยกูร์

ข่าวทั้งหมด

X