พ.อ.แบรนดอน แอนเดอร์สัน รองผู้บัญชาการกองกำลังผสมเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ทหารกว่า 1,000 คนจากกองกำลังผสมของเกาหลีใต้และสหรัฐฯจัดให้มีการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่สุดในรอบหลายปี จัดขึ้น 4 วันเริ่มจากวันนี้ โดยใช้กระสุนจริง ทั้งปืนใหญ่ รวมถึงอาวุธประเภทปืนใหญ่โจมตีระยะไกลเช่น ปืนใหญ่วิถีโค้ง (howitzer) รถถังและอาวุธอื่นๆเช่น ปืนกล เฮลิคอปเตอร์จู่โจมรุ่นเอ-10 และรุ่นอาปาเชโดยจุดซ้อมรบอยู่ห่างจากชายแดนเกาหลีเหนือไม่ถึง 32 กิโลเมตร
การซ้อมรบครั้งนี้ไม่ได้มุ่งโจมตีตามนัยยะหมายถึง เกาหลีเหนือ แต่มุ่งกระชับความร่วมมือระหว่างกองทัพของเกาหลีใต้กับสหรัฐฯเพื่อให้พร้อมรับมือกับภัยคุกคามบนคาบสมุทรเกาหลีมากกว่า และย้ำว่ากองกำลังสหรัฐฯจะไม่ถอนตัวจากคาบสมุทรเกาหลี โดยมีบทเรียนจากสถานการณ์การสู้รบในยูเครน ทำให้เกาหลีใต้และสหรัฐฯจะต้องปรับปรุงขีดความสามารถด้านการโจมตีด้วยปืนใหญ่ที่ยิงระยะไกลๆ รวมถึงการลาดตระเวนและการสอดแนมฐานที่มั่นของข้าศึก
เกาหลีใต้และสหรัฐฯกลับมาซ้อมรบอีกครั้ง หลังความพยายามใช้วิธีการเจรจาทางการทูต และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีการลดขนาดการซ้อมรบมาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งเกาหลีใต้และสหรัฐฯมองเรื่องการซ้อมรบว่า เพื่อสกัดกั้นเกาหลีเหนือไม่ให้เดินหน้าพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่เกาหลีเหนือกลับมองเรื่องนี้ว่า เป็นแผนรุกราน พร้อมทั้งคัดค้านเรื่องนี้มาโดยตลอด ขณะที่รัสเซียและจีนแสดงความกังวลเรื่องนี้เช่นกัน เพราะจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาค
สำหรับสหรัฐฯมีทหารประจำอยู่ในเกาหลีใต้ 28,500 คน
#เกาหลีใต้สหรัฐ
#ซ้อมรบ
#คาบสมุทรเกาหลี