*สรุปข่าว19.35น.*

+++นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า การอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 20 – 26 เม.ย. มีเวลารวมทั้งสิ้น 79 ชั่วโมง แบ่งเป็นของกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้แจงและอธิบาย จำนวน 15 ชั่วโมง, ให้ตัวแทนกมธ.ปฏิรูป ของสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) ทั้ง 18 คณะ เบื้องต้น คาดว่า จะมีตัวแทนคณะละ 3-4 คนอภิปราย คณะละ 2 ชั่วโมง รวมเป็น 36 ชั่วโมง ดังนั้นจะเหลือเวลาให้สปช.ที่ไม่ได้เป็นตัวแทนของกมธ.อภิปรายจำนวน 28 ชั่วโมง กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้ข้อเสนอเพิ่มเติม คือ การชี้แจงของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ควรเน้นการชี้แจงในประเด็นที่สปช.ยังเข้าใจผิด หรือเป็นการบิดเบือนข้อมูล และหลีกเลี่ยงการชี้แจงในลักษณะตอบโต้ หรือโต้เถียงกันไปมา เพื่อให้กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญใช้เวลาไม่มาก

+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวช่วงหนึ่งในการปาฐกถาพิเศษเนื่องในวันครบรอบ 124 ปี กระทรวงยุติธรรม ในหัวข้อ เติมเต็มช่องว่าง สร้างศักยภาพสู่ประชาคมอาเซียนด้วยกระบวนการยุติธรรม ว่ากระทรวงยุติธรรมนอกจากมีหน้าที่อำนวยความเป็นธรรม  ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างสังคมให้มีความปลอดภัยแล้ว โดยเฉพาะแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม  ซึ่งเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาทุกสัปดาห์ ทั้งนี้เพื่อยกระดับกฎหมายไทยให้เป็นที่ไว้วางใจระดับประเทศ เนื่องจากช่วงปลายปีไทยจะก้าวเข้าสู่การเปิดเสรีอาเซียน จะมีนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาจำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาด้านแรงงาน ด้านยาเสพติด การค้ามนุษย์ อาชญากรรมระหว่างประเทศ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมมีบทบาทที่เกี่ยวข้องในการจัดการเรื่องดังกล่าว รองนายกฯ ระบุว่า ประเทศไทยกำลังมีวิกฤติเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ในขณะที่ไทยควรทำประเทศให้เป็นที่น่าลงทุน น่าท่องเที่ยว ด้วยการปฏิรูป 

ให้ครอบคลุมทั้ง 11 ด้าน ซึ่งกระบวนการยุติธรรมเป็นหนึ่งในประเด็นที่ต้องมีการปฏิรูป นายกฯ มีความเป็นห่วงเรื่องการปฏิรูปทุกเรื่องแม้รัฐบาลจะหมดวาระไปแล้วแต่การปฏิรูปยังต้องเดินหน้าต่อ เพราะต้องใช้เวลา รัฐบาลไม่ได้ต้องการเพียงแค่ปรับปรุงหรือเปลี่ยนเเปลง แต่ต้องการการปฏิรูปซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานถึง 4-5 ปี จึงจะเห็นผล

+++กรณีที่นายกฯ สั่งการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำชับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เร่งแก้ปัญหาเรื่องการระบายน้ำ ว่า ได้คุยกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แล้ว โดยให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยด่วน เนื่องจากปัญหาดังกล่าวเกิดเพราะไม่มีการพร่องน้ำมาก่อน แต่ในส่วนของท่อระบายน้ำไม่ได้มีปัญหา ซึ่งจากคลองแสนแสบเมื่อฝนตกลงมาเร็ว และไม่มีการพร่องน้ำไว้ จึงทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่กทม.ชั้นในอย่างมาก  

+++ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์  แถลงสถานการณ์ฝนตกในกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ว่า ทราบว่าจะมีฝนตก แต่ไม่ทราบว่าจะหนักตกหนักเกินความคาดหมาย ซึ่งไม่ได้ตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ อย่างเดียว เมืองพัทยา และ จ.เชียงใหม่ ฝนตกหนักด้วยเช่นกัน เมื่อฝนตกทำให้ถนนเส้นทางหลักในกรุงเทพฯ ต้องใช้เวลาระบายน้ำ 1 - 2 ชั่วโมง ยกเว้นที่แยกอโศกมนตรี ต้องใช้เวลาระบายน้ำถึง 3 ชั่วโมง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่าย เข้าใจตรงกัน ไม่ได้คาดการณ์ว่าฝนจะตกหนักขนาดนี้ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังอยู่ในขอบเขตที่จำกัด หากมีข้อเสนอให้ กทม.พร่องน้ำ ก็ต้องพิจารณา การพร่องน้ำจะเกิดขึ้นต่อเมื่อใกล้ฤดูฝนมาแล้วเท่านั้น แต่อากาศในช่วงนี้มีความแปรปรวน จึงสั่งให้ กทม.เตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แต่คงจะละเลยปัญหาภัยแล้งไม่ได้ กทม.จะรับมือฝนนอกฤดูด้วยวิธีอื่น แต่จะไม่ใช้วิธีการพร่องน้ำ หากฝนตกในปริมาณ 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ก็จะสามารถระบายได้ทันที แต่ถ้าเกิน 60 มิลลิเมตรขึ้นไป อาจจะต้องใช้เวลา เราเป็นเมืองน้ำ เป็นเมืองฝน ไม่มีจุดเสี่ยงเลยคงไม่ได้ ถ้าไม่มีน้ำท่วม ต้องไปอยู่บนดอย ถึงจะคาดการณ์ผิด แต่ก็แก้ปัญหาได้ทันที สิ่งเหล่านี้ถ้าเป็นข้อบกพร่อง ก็ยอมรับ เพราะไม่มีใครสามารถสั่งฝนให้ตกมาก ตกน้อยได้ และไม่มีใครรับประกันได้ว่า เหตุการณ์เมื่อวานจะไม่เกิดขึ้น เพราะมีฝนตกลงมาเกินความคาดหมาย

 +++พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง กรณีที่หลายหน่วยงานปรับลดคาดการณ์การส่งออกของไทยปีนี้ ว่า เป็นไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ค่อนข้างล่าช้า ทำให้คาดว่าหลายประเทศจะมีอัตราการส่งออกติดลบ เช่น อินเดีย คาดว่าติดลบร้อยละ 13 อินโดนีเซียคาดว่าติดลบร้อยละ 11.9 สิงคโปร์ลดลงร้อยละ 8.6 ออสเตรเลีย ลดลงร้อยละ 8.4 และสหรัฐฯ ติดลบร้อยละ 5.1 ซึ่งไม่ใช่ไทยเพียงประทศเดียวที่มีปัญหาการส่งออก แต่ไทยยังดีกว่าหลายประเทศ หากวิเคราะห์ตลาดได้อย่างชัดเจนก็มีโอกาสที่จะผลักดันให้การส่งออกขยายตัวได้ แม้เศรษฐกิจโลกจะยังไม่ฟื้นตัวเร็ว ๆ นี้  และในวันพรุ่งนี้ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ จะแถลงตัวเลขการส่งออกเดือนก.พ.สถานการณ์ส่งออกสินค้าไทย ในช่วง 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ปีนี้ คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยขยายตัวติดลบประมาณร้อยละ 4.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  ปัญหาหลักมาจากการส่งออกน้ำมัน ลดลงมาก ส่วนทองคำ ส่งออกลดลงถึงร้อยละ 60  ตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่

+++หุ้นไทย ปิดวันนี้  ปรับลง1.65จุด ดัชนีอยู่ที่1,512.80จุด มูลค่าซื้อขาย 32,704.51ล้านบาท

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ของญี่ปุ่น ปิดบวกในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทำกำไร ดัชนีนิกเกอิปรับตัวขึ้น 32.75 จุด  ปิดที่ 19,746.20 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากตลาดปิดร่วงลงเมื่อวานนี้ เนื่องจาก ความวิตกกังวลต่อรายงานที่ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนมี.ค. ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ดัชนีฮั่งเส็ง เพิ่มขึ้น 128.63 จุด ปิดที่ 24,528.23 จุด

+++นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับกรณีการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 หรือมอเตอร์โชว์ 2015   ซึ่งมีค่ายรถยนต์หลายค่ายใช้พริตตี้แต่งกายไม่เหมาะสมเพื่อดึงดูดความสนใจ โดยเฉพาะค่ายรถค่ายหนึ่ง นำพริตตี้ชายและหญิงแต่งกายล่อแหลม ด้วยการเพ้นท์ลวดลายบนตัว และโชว์สรีระของพริตตี้ ในส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างมาก ภาพที่ปรากฏคิดว่ามันล่อแหลมมากเกินไป และการที่แต่งกายลักษณะนี้ ต่างประเทศอาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันไม่เหมาะสมกับบริบทวัฒนธรรมของไทย  จะให้สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม เร่งประสานงานไปยังค่ายรถและบริษัทออแกไนซ์เซอร์ที่จัดงาน เพื่อขอความร่วมมือในการดูแลการแต่งกายของพริตตี้ให้เหมาะสมด้วย

+++นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ผู้อำนวยการสำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นการกระทำลามกอนาจาร มีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 388 ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัลโดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท นอกจากนี้การเผยแพร่ภาพของพริตตี้ที่แต่งกายล่อแหลมยังถือเป็นการผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย จึงขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้มีการนำภาพดังกล่าวมาเผยแพร่

+++ความคืบหน้าเหตุเครื่องบิน แอร์บัส เอ320 เที่ยวบิน 4U 9525 ของสายการบิน เยอรมันวิงส์ พร้อมผู้โดยสาร 144 คน และลูกเรืออีก 6 คน ตกบริเวณเชิงเขาของเทือกเขาแอลป์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส ขณะเดินทางจากเมืองบาร์เซโลนา ของสเปน ไปยังเมืองดุสเซลดอร์ฟ ในเยอรมนี  นายฟรานซิส เฮอร์มิตต์ นายกเทศมนตรีเมืองเซย์เน เลส แอลป์ ของฝรั่งเศส  ใกล้จุดเกิดเหตุเครื่องบินตก คาดว่าญาติผู้โดยสารจะเดินทางถึงเมืองของเขาในเร็วๆนี้ ระบุว่าชาวบ้านในละแวกนั้นเสนอตัวเป็นเจ้าบ้านให้ที่พักฟรีแก่ครอบครัวผู้โดยสารเนื่องจากห้องพักของโรงแรมต่างๆในท้องถิ่นไม่มีห้องว่างให้เช่า ทางการฝรั่งเศสได้ระดมกำลังตำรวจกว่า 300 คน พนักงานดับเพลิง 380 คนไปเสริมการปฏิบัติงานของตำรวจหน่วยกู้ภัยประจำเทือกเขาอีก 30 คน พนักงานสอบสวนอีก 5 คนของฝรั่งเศสได้ค้างคืนใกล้จุดเกิดเหตุ คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์หรือกว่านั้นจึงจะเก็บกู้ศพได้ทั้งหมด

+++เว็บไซต์ข่าวอินดิเพนท์เดนท์ของอังกฤษ รายงานว่า เครื่องบินโบอิง 737 เที่ยวบินยูที 369 ของสายการบินยูทีแอร์ของรัสเซีย พร้อมคนบนเครื่องกว่า 80 คนขอลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินพูลโคโว เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมืองอันดับ2ของรัสเซีย เมื่อเวลา 12.25 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ หลังเครื่องยนต์ตัวหนึ่งขัดข้อง สายการบินดังกล่าว เดินทางจากกรุงมอสโกว์ไปยังเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้ขอลงจอดในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก หลังเครื่องยนต์ขัดข้อง สำนักข่าวอาร์ไอเอส โนโวสติของรัสเซียว่า ระบบวิทยุสื่อสารของเครื่องบินขัดข้อง บ่งชี้ว่าเครื่องยนต์ซีกขวาไม่ทำงาน