*รองอธิบดีกรมการขนส่ง เตรียมขยายผลจัดระเบียบรถแท็กซี่หน้าห้าง ปัญหาเดิม ปฎิเสธผู้โดยสาร-ไม่กดมิเตอร์*

การลงพื้นที่หน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนเพื่อสร้างต้นแบบการจัดระเบียบแท็กซี่ของกรมการขนส่งทางบก นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีฝ่ายบริหาร กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นย่านเศรษฐกิจและมีการร้องเรียนจากผู้ใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น DLT Check In และผ่านคอลเซ็นเตอร์ กรมการขนส่งทางบก1584 เข้ามามากที่สุดว่าเป็นที่ที่รถแท็กซี่มักปฎิเสธผู้โดยสาร โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนในช่วงเย็น ตั้งแต่เวลา 16.00-20.00น. กรมการขนส่งทางบกจึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 สร้างต้นแบบการจัดระเบียบรถแท็กซี่ที่ประชาชนต้องการ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการของกระทรวงคมนาคมและกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ที่หวังให้แท็กซี่ไม่ปฎิเสธผู้โดยสาร โดยโครงการนี้จะส่งเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนมาจัดระเบียบรถ ระเบียบการจราจรและตรวจตรารถแท็กซี่ที่ผิดกฎหมายหรือไม่ปฎิบัติตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 รวมทั้งคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ โดยได้ประสานงานกับห้างสรรพสินค้าในย่านนี้ทั้ง 4 ห้าง ประกอบด้วย มาบุญครอง สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์และแพลตตินั่ม ให้ส่งพนักงานมาร่วมอำนวยความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ด้วย  โดยได้เริ่มโครงการตั้งแต่เมื่อวานนี้ซึ่งก็ยังพบว่ามีรถแท็กซี่กระทำผิดอยู่ 17 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็นการปฎิเสธผู้โดยสาร รองลงมาคือไม่กดมิเตอร์ และแต่งกายไม่สุภาพตามระเบียบ ซึ่งได้ตักเตือนไปแล้ว อย่างไรก็ดีนายจิรุตม์ ระบุด้วยว่า การร้องเรียนเกี่ยวกับรถแท็กซี่ลดลงมากกว่าเดิมทุกกรณี ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกจะจัดกำลังให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ย่านดังกล่าวทุกวัน โดยเฉพาะช่วงเย็นที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้โดยสาร และจะมีการประเมินผลใน 2 สัปดาห์ว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้มีแนวคิดขยายโครงการต้นแบบการจัดระเบียบรถแท็กซี่ไปยังพื้นที่อื่นทั่วกรุงเทพ และหากมีผลประเมินที่พอใจก็จะขยายไปต่างจังหวัด ส่วนบทลงโทษรถแท็กซี่ จะแตกต่างกันไป โดยจะมีตั้งแต่การตักเตือน การพักใช้รถ ไปจนถึงการเพิกถอนใบอนุญาต ปัจจุบันมีรถแท็กซี่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตไปแล้ว 2 ราย และพักใช้รถไปแล้วกว่า 93 คัน ส่วนหากเจ้าหน้าที่พนักงานกรมขนส่งทางบกพบเห็นรถแท็กซี่ปฎิเสธผู้โดยสารระหว่างออกตรวจก็สามารถเรียกปรับและบันทึกประวัติรถได้ทันที  ส่วนประชาชนหากต้องการร้องเรียนก็สามารถโทรมาที่ 1584 ได้ตลอด 24ชม.

ด้านผู้ใช้บริการรถแท็กซี่ต่างพูดทำนองเดียวกันว่าล้วนเคยถูกรถแท็กซี่ปฎิเสธมาตลอดจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับหนึ่งในผู้ใช้บริการรถแท็กซี่หน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนในช่วงเย็นวันนี้ระบุว่า ตัวเองขึ้นรถแท็กซี่เป็นประจำ เนื่องจากเป็นคนต่างจังหวัด ไม่คุ้นชินทางในกรุงเทพฯ จึงจำเป็นที่จะต้องโดยสาร โดยถูกรถแท็กซี่ปฎิเสธบ่อยมาก โดยเฉพาะช่วงที่เรียกแท็กซี่จากสนามบินไปยังที่พักตามโรงแรม เพราะแท็กซี่คงต้องการรับผู้โดยสารต่างชาติมากกว่า อีกทั้งหากจะใช้บริการก็ต้องเสียค่าเซอร์ชาร์จอีก 50 บาท ซึ่งตัวเองมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเอาเปรียบผู้โดยสาร ส่วนการขึ้นรถแท็กซี่นั้น ส่วนตัวก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากผู้ขับรถส่วนมากมักแต่งกายไม่เรียบร้อย ขับรถเปลี่ยนเลนและน่าหวาดเสียวเป็นประจำ รวมทั้งชอบมองกระจกหลังมาที่ตัวเองด้วย จึงทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับรถแท็กซี่ อย่างไรก็ดีอยากขอให้ผู้ขับรถแท็กซี่แต่งกายให้สุภาพ ไม่มองกระจกหลัง และอย่าขับรถอ้อมทาง เพราะตัวเองเคยนั่งรถแท็กซี่ระยะใกล้จากคุรุสภาไปยังสวนสัตว์ดุสิต แต่พบว่ารถแท็กซี่ขับอ้อมเพื่อหวังค่ามิเตอร์ด้วย

ธีรวัฒน์