นายอาห์ซาน อิกบัล รัฐมนตรีด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของปากีสถาน เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทั่วโลกทำให้ฝนตกหนักในปากีสถานต่อเนื่องตั้งแต่เข้าสู่ฤดูมรสุมกลางเดือนมิถุนายนปีนี้ และสถานการณ์รุนแรงที่สุดในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนเสียชีวิต 1,033 ราย บ้านเรือนเกือบ 1 ล้านหลังจมน้ำ โดยเฉพาะจังหวัดสินธ์ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเสียหายหนักที่สุดนับแต่ปี 2553
นายอิกบัล กล่าวว่า ระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะถนนและสะพานชำรุดเสียหาย พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย เช่น ข้าว ผัก ผลไม้และพืชสร้างรายได้สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอ เช่น ฝ้าย ถูกน้ำท่วม ชาวบ้านกว่า 33 ล้านคนหรือกว่าร้อยละ 15 ของประชากรทั้งหมด 220 ล้านคนของปากีสถานได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม หลายคนแทบจะอยู่ในสภาพสิ้นเนื้อประดาตัว ทั้งมีปัญหาขาดแคลนอาหาร พร้อมประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจของปากีสถานจากน้ำท่วมในปีนี้สูงกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นายอิกบัล คาดว่า รัฐบาลปากีสถาน อาจจะใช้เวลา 5 ปีในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมให้กลับเข้าสู่สภาพเดิม พร้อมวิงวอนให้นานาชาติร่วมบริจาคสิ่งของบรรเทาทุกข์สำหรับปากีสถาน
ด้านนายมิฟตาห์ อิสมาอิล รัฐมนตรีคลังของปากีสถาน ระบุว่า เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนอาหาร ปากีสถานจะนำเข้าอาหารเช่น ผักสดจากอินเดีย ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน แต่เป็นคู่ปฏิปักษ์กันและไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการค้ามายาวนาน พร้อมทั้งจะนำเข้าอาหารจากต่างแดน เช่น ตุรกีและอิหร่าน
#ปากีสถาน
#น้ำท่วม