การลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย ในช่วงแรกของการซื้อขายในวันนี้(29 ส.ค.65) ปรับตัวลดลง เช่นเดียวกับหุ้นสหรัฐฯ หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นายวิษณุ วราธาน หัวหน้าทีมเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของธนาคารมิซูโฮของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า หุ้นของตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชีย เช่น
-ดัชนีหุ้นนิคเคอิ 225 ตลาดหุ้นกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ร่วงลงร้อยละ 2.8
-ดัชนีหุ้นคอสปิ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ และ ดัชนีหุ้นเอเอสเอ็กซ์ 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ร่วงกว่าร้อยละ 2
-ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ร่วงกว่าร้อยละ 0.8
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ มองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะทำให้ภาคครัวเรือนและธุรกิจรายย่อยในสหรัฐฯมีภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในการกู้ยืมเงินจากธนาคาร จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว
นายพาวเวล กล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(26 ส.ค.65)ว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ หลังขยับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 8.5 ในเดือนก.ค.65 สูงสุดในรอบ 40 ปี พร้อมคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงเช่นนี้ไปอีกสักพักใหญ่ๆ ซึ่งอาจจะสร้างความเจ็บปวดสำหรับครัวเรือนและธุรกิจรายย่อยของสหรัฐฯ
ส่วนเศรษฐกิจจีน นายแดน หวัง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารฮั่งเส็ง ไชน่าของฮ่องกง ระบุว่า นักลงทุนรู้สึกกังวลแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน เนื่องจาก นโยบายลดโรคโควิด-19 เหลือ 0 วิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการบริโภคของครัวเรือนของจีนอ่อนแอลง
ขณะเดียวกัน เกิดปัญหาขาดแคลนกระแสไฟฟ้าในมณฑลเสฉวนทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศในระยะนี้ กระทบบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตเครื่องสมาร์ทโฟนรายใหญ่ในประเทศจีน ข้อมูลจากทางการจีนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้ว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมในจีน ลดลงร้อยละ 1.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
#หุ้นเอเชียร่วง
#เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
#เศรษฐกิจจีนชะลอตัว