สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (National Bureau of Statistics : NBS) รายงานว่า ภาคอุตสาหกรรมของจีนมีผลกำไรลดลงในเดือนกรกฎาคม (2565) เนื่องจากมาตรการควบคุมโควิด-19 รอบใหม่ และยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน ร่วมด้วยคลื่นความร้อนที่ทำให้มีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นและคุกคามการผลิต
ผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมของจีนลดลงร้อยละ 1.1 ในเดือนมกราคม-กรกฎาคม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า แต่สำนักงานไม่ได้เปิดเผยตัวเลขในแต่ละเดือนว่ามีอัตราเท่าใด แต่ให้ข้อมูลโดยรวมว่า การผลิตและกิจกรรมของโรงงานในศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญ เช่น เซินเจิ้นและเทียนจิน ได้รับผลกระทบในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่มีการกำหนดมาตรการควบคุมโรคโควิดรอบใหม่
ในเดือนกรกฎาคม การเติบโตของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนชะลอตัวลงเหลือร้อยละ 3.8 เมื่อเทียบเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และลดลงจากระดับร้อยละ 3.9 ในเดือนมิถุนายน
ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม มีคลื่นความร้อนปกคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำแยงซี ส่งผลกระทบต่อเมืองที่มีประชากรหนาแน่นตั้งแต่เซี่ยงไฮ้ถึงเฉิงตู
ส่วนปัญหาหนี้สินภาคอุตสาหกรรมในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว และเป็นอัตราคงที่จากในเดือนมิถุนายนของปีนี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านหยวน (146,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลดผลกระทบจากการใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์
โดยในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังรวมถึงการจัดสรรเงินทุนให้กับธนาคารนโยบายของรัฐ (State Policy Banks) นำไปลงทุนในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดสรรเงินให้กับรัฐบาลท้องถิ่นนำไปออกพันธบัตรพิเศษ
...
#อุตสาหกรรมจีน