การดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับนพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) กรณีการให้ข้อมูลของนพ.บุญ ตามสื่อหลายแหล่งว่า THG จะลงนามในสัญญาซื้อขายและนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ชนิด mRNA ยี่ห้อ Pfizer โดยจะรับมอบวัคซีนล็อตแรกจำนวน 5 ล้านโดส ภายในเดือนกรกฎาคม 2564 และได้มีผู้ขอให้ ก.ล.ต. ตรวจสอบการให้ข่าวที่อาจไม่เป็นไปตามกฎหมายในกรณีดังกล่าว รวมทั้ง ก.ล.ต. ได้รับการแจ้งเหตุสงสัยจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า นพ.บุญ อาจบอกกล่าวหรือเผยแพร่ข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญที่อาจทำให้มีผลกระทบต่อราคาหรือการตัดสินใจลงทุนในหุ้น THG อันอาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ)
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับนพ.บุญ โดยให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ คือ 2,000,000 บาท และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด รวมเป็นเงินจำนวน 2,348,834 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 42 เดือน การกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้นจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด
สำหรับ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง
#ลงโทษหมอบุญ
#วัคซีนโควิด19
แฟ้มภาพ