อดีตผู้บริหารทวิตเตอร์ ร้องเรียนสภาคองเกรสตรวจสอบปัญหาด้านการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม

          นายปีเตอร์ “มัดจ์” ซัตโก อดีตผู้บริหารของทวิตเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์รายใหญ่ ยื่นเรื่องต่อสภาคองเกรส เตือนว่า ทวิตเตอร์มีการทำงานที่ประมาทเลินเล่อด้านความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน และความมั่นคงของชาติ

          นายซัตโก เป็นแฮ็กเกอร์ที่บริษัททวิตเตอร์ เคยว่าจ้างให้เขารับหน้าที่เพิ่มความปลอดภัยในระบบการทำงานของแพลตฟอร์มเมื่อปี 2563 แต่ถูกไล่ออกเมื่อต้นปีนี้ (2565) เขายื่นเรื่องร้องเรียนในฐานะผู้แจ้งเบาะแสต่อสภาคองเกรสและหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลาง ซึ่ง CNN สื่อรายใหญ่ของสหรัฐฯ รายงานว่า เอกสารฉบับนี้มีความยาว 84 หน้า ส่งให้กับหน่วยงานรัฐเมื่อเดือนที่แล้ว (ก.ค.) ต่อมารั่วไหลมาถึงสื่อต่างๆ โดยมีเนื้อหาที่เป็นการกล่าวหาว่าผู้บริหารของทวิตเตอร์ พยายามปกปิดจุดอ่อนด้านความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าเซิร์ฟเวอร์ครึ่งหนึ่งทำงานล้าสมัย พนักงานของทวิตเตอร์จำนวนมากได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่สุดของแพลตฟอร์ม ทั้งพบว่า มีพนักงานปัจจุบันอย่างน้อยหนึ่งคนอาจทำงานให้กับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ นอกจากนี้แพลตฟอร์มยังมีช่องว่างด้านความปลอดภัย ที่อาจทำให้แฮกเกอร์เปิดใช้งานการสอดแนม และการบิดเบือนข้อมูลได้ ที่สำคัญคือไม่มีการตรวจสอบจำนวนบัญชีบอทที่แท้จริงบนแพลตฟอร์ม เพราะพวกเขาได้รับโบนัสมากถึง 10 ล้านดอลลาร์ตามจำนวนผู้ใช้และไม่มีแรงจูงใจในการลดสแปม

          CNN ระบุว่า ปัญหาบัญชีบอทเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ยกเลิกข้อตกลงซื้อทวิตเตอร์มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนที่แล้ว

          วุฒิสมาชิก ดิ๊ก เดอร์บิน (เดโมแครต จากรัฐอิลลินอยส์) ประธานคณะกรรมการตุลาการของวุฒิสภา รับสอบสวนข้อร้องเรียนของนายซัตโก และจะดำเนินการตามความจำเป็นเพิ่มเติมเพื่อขจัดข้อกล่าวหาที่น่าตกใจเหล่านี้

          ส่วนวุฒิสมาชิก ชัค กราสลีย์ (รีพับลิกัน จากรัฐไอโอวา) คณะกรรมการตุลาการวุฒิสภา กล่าวว่า รายงานฉบับนี้ก่อให้เกิดความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติอย่างร้ายแรง และประเด็นความเป็นส่วนตัวในการใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่รวบรวมข้อมูลผู้ใช้จำนวนมหาศาล เป็นความอ่อนแอด้านความปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ

....

#ทวิตเตอร์

#คองเกรสสหรัฐ