คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีน เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ส่งผลให้อัตราการแต่งงานและการเกิดของทารกในประเทศจีน ลดลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงหลายคนเลื่อนแผนการแต่งงาน หรือแผนการมีลูก เนื่องจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาและการเลี้ยงดูบุตรมีแนวโน้มสูงขึ้นด้วย
นอกจากนี้ คนวัยหนุ่มสาวที่ย้ายจากชนบทไปอยู่ในชุมชนเมือง ส่วนใหญ่ทุ่มเทเวลากับการศึกษามากขึ้น อีกทั้งสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนกลุ่มนี้อยู่เป็นโสดนานขึ้น หรือเลื่อนแผนการแต่งงาน
คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีน อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสำมะโนประชากรและเคหะของจีน คาดว่า อัตราการเกิดของทารกในจีนจะลดต่ำเป็นสถิติใหม่ คือต่ำกว่า 10 ล้านคนในปีนี้(2565) เทียบกับจำนวนทารกเกิดใหม่ 10.6 ล้านคนในปีที่แล้ว และต่ำกว่าอัตราทารกเกิดใหม่ในปี 2563 ร้อยละ 11.5
ด้านสำนักงานสำมะโนประชากรและเคหะของจีน ระบุในทำนองเดียวกันว่า นโยบายลดโรคเหลือ 0 ของรัฐบาลจีน เช่น การล็อกดาวน์เพื่อลดการระบาดใหม่ของโรคโควิด-19 กระทบการใช้ชีวิตตามปกติของประชาชน ทำให้คนหนุ่มสาวในจีนตัดสินใจเลื่อนแผนแต่งงาน หรือแผนมีลูก
จีนมีอัตราการเจริญพันธุ์เฉลี่ย อยู่ที่ 1.16 ในปี 2564 นับว่า เป็นหนึ่งในบรรดาประเทศที่มีอัตราการเจริญพันธุ์ต่ำที่สุดในโลก และยังต่ำกว่าอัตราการเจริญพันธุ์เฉลี่ย 2.1 ซึ่งองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD)ระบุว่า เป็นตัวเลขสำคัญที่จะช่วยให้ประชากรมีเสถียรภาพ
#จีน
#อัตราการเกิด
#ผลกระทบจากโควิด