กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงแนวทางรักษาโควิด-19 กลุ่มไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย แบบ 5+5 คือ แยกกักรักษาที่บ้าน 5 วัน และป้องกันเข้มอีก 5 วัน ถูกต้องตามข้อมูลวิชาการ สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน มีความสมดุลระหว่างการควบคุมโรคกับการใช้ชีวิตตามปกติของประชาชน
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การกำหนดให้แยกกักรักษา 5 วัน และเฝ้าระวังสังเกตอาการและเคร่งครัดมาตรการป้องกันตนเอง คือ สวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่างอีก 5 วัน เป็นแนวทางการถูกต้องตามหลักวิชาการ และผ่านการปรึกษาหารือกับผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุขแล้ว โดยมีข้อมูลการศึกษาในหลายประเทศ พบว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 สามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ก่อนเริ่มป่วย 1-2 วัน และวันเริ่มป่วยจะเป็นระยะที่มีโอกาสแพร่โรคให้ผู้อื่นได้มากที่สุด ซึ่งจำเป็นต้องแยกกักที่บ้าน เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อในชุมชน
ช่วงแรกการแยกกักรักษาจะใช้เวลา 14 วัน แต่เมื่อเชื้อมีความรุนแรงลดลง ประชาชนฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีภูมิคุ้มกัน เมื่อติดเชื้อจึงไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย จึงให้ลดระยะเวลาแยกกักรักษาเป็น 10 วัน คือ 7+3 และขณะนี้เป็นแนวทางของ 5+5
โดยการลดเวลาแยกกักรักษาที่บ้าน เกิดจากข้อเท็จจริงทางวิชาการ ที่ว่าการแยกกักที่บ้าน 5 วัน หรือ 7 วัน หรือนานกว่านั้น สามารถลดโอกาสเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อชุมชนไม่แตกต่างกัน ที่สำคัญคือ ผู้ติดเชื้อจะต้องป้องกันตนเองอย่างเต็มที่
กลุ่มที่เป็นห่วง คือ กลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยหนัก หรือมีอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ กลุ่ม 608 ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนโควิดหรือยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น จึงต้องเน้นให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น
และหากประชาชนยังคงร่วมมือกันสวมหน้ากากขณะทำกิจกรรมร่วมกันในกลุ่มคนจำนวนมาก หรือสวมหน้ากากขณะอยู่ในที่สาธารณะ รวมทั้งผู้ที่มีอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ น้ำมูกไหล เจ็บคอ ปวดตามตัว มีการสวมหน้ากาก ขณะอยู่ใกล้ชิดผู้อื่น จะช่วยลดการแพร่โรคได้
...
#แยกกักรักษา5บวก5
#โควิด19