อากาศแปรปรวน! เฮอริเคนพัดถล่มตอนกลางและตอนใต้ของ ฝรั่งเศส ออสเตรียและอิตาลี ตาย 13 ราย

          การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้อากาศแปรปรวนโดยต่อเนื่องในยุโรปเผชิญกับคลื่นอากาศร้อนและภัยแล้งในพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปมาหลายสัปดาห์ ต่อมา พายุเฮอริเคนพัดถล่มพื้นที่ตอนกลางและตอนใต้ของยุโรปเมื่อวาน ฝนตกหนัก ลมแรง มีคนเสียชีวิต 13 ราย รวมถึงเด็ก 3 ราย ในฝรั่งเศส ออสเตรียและอิตาลี ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการถูกต้นไม้ล้มทับ

          ในฝรั่งเศส พายุพัดถล่มเกาะคอร์ซิกา ทางภาคใต้ของประเทศด้วยความแรงลม 224 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต้นไม้หักโค่น บ้านเคลื่อนย้ายได้ (mobile homes)ได้รับความเสียหาย แคมป์พักแรมชั่วคราวแห่งหนึ่งได้รับความเสียหาย มีคนเสียชีวิต 6 ราย และมีคนบาดเจ็บ 20 คน

          สำหรับผู้เสียชีวิตที่เกาะคอร์ซิกา รวมทั้งเด็กหญิงวัย 13 ปีคนหนึ่งและชายวัย 46 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตหลังต้นไม้ล้มทับ นอกจากนี้ ผู้ขับขี่หญิงวัย 70 ปีคนหนึ่งเสียชีวิต หลังกระแสลมพัดหลังคาของกระท่อมริมชายหาดหลังหนึ่งปลิวมาชนรถของเธอขณะขับขี่ ส่วนอีก 2 รายคือ ชาวประมงชายอายุ 62 ปีและนักพายเรือคายัคหญิงอายุ 60 ปีเสียชีวิตในทะเล

         นายเจอราลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีความมั่นคงภายในของฝรั่งเศสได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมความเสียหายที่เกาะคอร์ซิกา และพื้นที่ประสบภัยอื่นๆ เช่น เมืองมาร์แซย์ ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส เสาไฟฟ้าหักโค่น ทำให้ไฟฟ้าดับ ชาวบ้านราว 45,000 ครัวเรือนไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ และฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วมในบางท้องที่ ทั้งนี้รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศให้เกาะคอร์ซิกาและเมืองมาร์แซย์ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพื่อให้รัฐบาลท้องถิ่นได้รับการช่วยเหลือด้านงบฉุกเฉินจากรัฐบาลกลาง

          ที่ออสเตรีย มีคนเสียชีวิต 5 รายและมีคนบาดเจ็บ 13 คน สำหรับผู้เสียชีวิต 2 รายแรกเป็นเด็กหญิงอายุ 4 ปีและอายุ 8 ปีถูกต้นไม้ล้มทับตายที่ทะเลสาบแห่งหนึ่งในรัฐคารินเทีย ต่อมามีคนเสียชีวิตในลักษณะเดียวกันอีก 3 รายในรัฐโลเวอร์ออสเตรีย

          ส่วนที่อิตาลี มีคนเสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิงหนึ่งรายและชายหนึ่งรายเสียชีวิตจากต้นไม้ล้มทับรถยนต์ในเมืองคาร์รารา แคว้นทัสคานี ส่วนเมืองเวนิส อิตาลี แรงลมทำให้โครงสร้างอาคารก่ออิฐของหอระฆังของมหาวิหารซันมาร์โก(St Mark's Basilica)ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน ส่วนที่แคว้นซีชีเลีย ทางภาคใต้ของอิตาลี ยังคงมีคลื่นอากาศร้อนแผ่ปกคลุม อากาศร้อนจัด อุณหภูมิแตะ 40 องศาเซลเซียส

          ที่ผ่านมา โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1.1 องศาเซลเซียส นับแต่เริ่มเข้าสู่ยุคพัฒนาอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มอุณภูมิของโลกจะร้อนขึ้นเรื่อยๆถ้ารัฐบาลของทุกประเทศทั่วโลกไม่ร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศของโลก

#ยุโรป

#พายุ