ศบค.ชุดใหญ่ หารือมาตรการรับโควิด-19 เป็นโรคเฝ้าระวัง ห่วงหากขยายปิดผับ 04.00น.

18 สิงหาคม 2565, 12:19น.


          การประชุมศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.ชุดใหญ่) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.65) พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมจะพิจารณาข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่จะกำหนดกรอบแนวทางโรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 ส่วนเมื่อประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคเฝ้าระวังแล้ว จะต้องยุบการทำงานของ ศบค.หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ จะต้องประเมินสถานการณ์ว่าจำเป็นจะต้องใช้กฎหมายพิเศษหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ มองว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายลงแล้ว แต่ยังมีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ เนื่องจากต้องกำกับและควบคุมผู้ที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ และห้ามในการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่จะก่อเกิดให้เกิดโรคระบาด



         ที่ประชุม ศบค.จะพิจารณาแผนกระจายยา ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข กระจายยารักษาโรคโควิด-19 ไปยังโรงพยาบาลเอกชน และคลินิกเวชกรรมแล้ว และระยะต่อไป จะขยายไปยังร้านขายยาชั้นหนึ่ง เพื่อให้สามารถจำหน่ายยาดังกล่าวได้ ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เตรียมแผนนำไปสู่การประกาศเป็นโรคเฝ้าระวัง และรองรับการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ที่สำคัญในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นจังหวัดใหญ่ที่จะต้องบูรณาการกับจังหวัดปริมณฑล



         นอกจากนี้ จะพิจารณาถึงการเปิดด่านชายแดน หลังจากที่ได้ผ่อนคลายไปแล้วในช่วง 1 เดือนผ่านมา รวมถึงรับทราบรายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวด้วย



         พล.อ.สุพจน์ ยังกล่าวถึงข้อเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการขยายเวลาการเปิดสถานบันเทิงไปจนถึงเวลา 04.00 น.ว่า ขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยจะไปพิจารณา เพราะที่ผ่านมา ศบค.พิจารณาจนสุดทางแล้ว แต่ ศบค.จะมีข้อห่วงใยว่าหากขยายเวลาเปิดบริการแล้ว จะมีผลกระทบกับประชาชนในการดูแลป้องกันโควิด-19หรือไม่



 



#แผนรับโควิดเป็นโรคเฝ้าระวัง



แฟ้มภาพ รัฐบาลไทย



 

ข่าวทั้งหมด

X