การจัดงานประชุมระดับสูงเอเปคว่าด้วยการสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 22-26 สิงหาคม 2565 ที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกได้รับมอบหมายในการจัดบูธนิทรรศการเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย การนำสมุนไพรมาใช้ทางการแพทย์ และการสาธิตการนวดแผนไทยภายในงาน ซึ่งจัดให้บริการนวดคอ บ่า ไหล่ และนวดเท้าให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน 10 เตียง ได้แก่ นวดคอ บ่า ไหล่ จำนวน 5 เตียง รองรับได้ 40 คนต่อวัน และนวดเท้า 5 เตียง รองรับได้ 40 คนต่อวัน โดยมีการจัดสถานที่นวดเป็นสัดส่วน มีฉากกั้นระหว่างเตียง และจัดบริการบนมาตรฐานความปลอดภัยจากโรคโควิด-19 โดยผู้ให้บริการและผู้รับบริการจะสวมหน้ากากอนามัย มีการทำความสะอาดก่อนและหลังรับบริการ
ส่วนข้อห้ามในการนวด ได้แก่ 1.มีไข้เกิน 38.5 องศาเซลเซียส 2.ไข้พิษ ไข้กาฬ เช่น อีสุกอีใส งูสวัด 3.โรคผิวหนังที่มีการติดต่อ 4.โรคติดต่อ เช่น วัณโรค 5.ไส้ติ่งอักเสบ 6.กระดูกแตกหัก ปริ ร้าวที่ยังไม่ติดสนิท 7.มีภาวะผิดปกติของเลือด เช่น เลือดไม่แข็งตัว 8.มีภาวะอักเสบ ติดเชื้อ บวม แดง ร้อน และ9.หลังได้รับอุบัติเหตุ
ด้านข้อควรระวังในการนวด ได้แก่ สตรีมีครรภ์ ใส่อวัยวะเทียมหลังผ่าตัดกระดูก ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และผู้มีภาวะข้อต่อหลวม กระดูกพรุน ผู้ที่รับประทานอาหารอิ่มใหม่ ๆ ภายใน 30 นาทีก่อนนวด ทั้งนี้ จากการศึกษาวิจัยพบว่าการนวดคอ บ่า ไหล่ เพียงอย่างเดียว สามารถลดความปวดกล้ามเนื้อและความตึงตัวของกล้ามเนื้อได้เหมือนกับกลุ่มที่รับประทานยาแก้ปวดผสมยาคลายกล้ามเนื้อ หรือกลุ่มที่รับประทานยาร่วมกับการนวด นั่นหมายความว่า การนวดไทย สามารถบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและสามารถคลายความตึงตัวของกล้ามเนื้อได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาในการบรรเทาอาการ
สำหรับการจัดประชุมเอเปคครั้งนี้ กรมการแพทย์แผนไทยฯ จึงได้จัดทำของที่ระลึกซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมไทย น้ำมันหอมระเหย และเครื่องสำอาง เพื่อมอบให้แก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจ คู่สมรส วิทยากร และผู้เข้าร่วมประชุม
#นวดแผนไทย
#เอเปค
CR:รัฐบาลไทย