เศรษฐกิจญี่ปุ่นไตรมาสที่ 2 เติบโตร้อยละ 2.2 หลังยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์

          เว็บไซต์ไฟแนนเชียลไทม์รายงานอ้างแถลงการณ์จากคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตร้อยละ 2.2 ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังรัฐบาลญี่ปุ่นยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขยายตัวต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติดต่อกัน แต่ยังต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้คือ ร้อยละ 2.6 

          แม้ว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงฟื้นตัว แต่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ รวมทั้งนายอัตสึชิ ทาเคดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจอิโตชู (Itochu Economic Research Institute) เตือนว่า ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงหลักๆหลายอย่างที่อาจจะกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตมาส 3-4 ของปีนี้ เช่น อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น แนวโน้มการระบาดแบบคลัสเตอร์ระลอกใหม่ การนำเข้าสินค้าจากต่างแดนมีต้นทุนที่แพงขึ้น ปัญหาด้านซัพพลายเชน วัตถุดิบมีราคาแพงขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯและประเทศอื่นๆที่เป็นหุ้นส่วนการค้าสำคัญของญี่ปุ่น และแม้ว่าความต้องการในประเทศจะขยายตัวขึ้น แต่การส่งออกที่อ่อนแอจะกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน

          ด้านธนาคารกลางของญี่ปุ่น ปรับลดตัวเลขคาดการณ์สำหรับเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 2.4 จากร้อยละ 2.9 ในเดือนเมษายน ระบุว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว อีกทั้งมีปัญหาซัพพลายเชนและสถานการณ์การสู้รบยืดเยื้อในยูเครน พร้อมทั้งคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ร้อยละ -0.1 และคงอัตราผลตอบแทนสำหรับพันธบัตรอายุ 10 ปีอยู่ที่ร้อยละ 0

          การล็อกดาวน์กรุงโตเกียว และอีกหลายจังหวัดเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงเดือนมีนาคม ทำให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นต่ำกว่าบรรดาประเทศที่พัฒนาแล้ว รายอื่นๆ โดยขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1 ในไตรมาสแรกของปีนี้ 

#ญี่ปุ่น

#เศรษฐกิจไตรมาส2

#การยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์