สำนักงานสถิติของจีน (NBS) รายงานว่าในเดือนกรกฎาคม (2565) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อ ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากราคาเนื้อหมูเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20.2 และเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นจากในเดือนมิถุนายน ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.5 แต่ยังต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับร้อยละ 2.9
ส่วนดัชนีผู้ผลิต (PPI) หรืออัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และเป็นระดับที่ลดลงจากในเดือนมิถุนายน ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 6.1 แต่ยังต่ำกว่าที่คาดหมายไว้ที่ระดับร้อยละ 4.8
นักวิเคราะห์ระบุว่า มาตรการล็อกดาวน์เพื่อป้องกันโควิด-19 ทำให้อุปสงค์ของผู้บริโภคยังอ่อนแอช่วยกดดันราคาสินค้าโดยรวมเอาไว้ ทั้งยังเป็นแรงกดดันภาคการผลิตในประเทศ เมื่อโรงงานขนาดใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่บังคับใช้มาตรการทำให้ต้องหยุดการผลิตเป็นระยะ
อย่างไรก็ตาม ระดับเงินเฟ้อที่ร้อยละ 2.7 นี้ยังอยู่ในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ร้อยละ 3 ที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ โดยในปีนี้ ธนาคารกลางของจีน มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หลายครั้งเพื่อชดเชยผลกระทบจากการล็อกดาวน์ และรัฐบาลมีการอนุมัติเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเผชิญวิกฤต ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์จากแคปิตอล อิโคโนมิกส์ คาดว่า แนวโน้มดัชนีผู้ผลิตจะลดลงต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงอีก ช่วยลดปัญหาคอขวดของอุปทานลงได้
...
#เศรษฐกิจจีน
ไฟดับในยุโรป สะเทือนถึงการใช้เงินดิจิทัล
...
ทรัมป์ร่ยินดีกับนายกฯแคนาดา หลังชนะเลือกตั้ง-หวังนัดคุยปัญหาการค้า
...
มูดี้ส์ ลดอันดับเครดิตไทย สู่เชิงลบ
...
ข่าวทั้งหมด
