จีน พบคลัสเตอร์โควิดในทิเบต สั่งปิดพระราชวังโปตาลา แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

          รัฐบาลจีนมีคำสั่งให้ปิดพระราชวังโปตาลาในทิเบต เขตปกครองตนเองทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีผลจากวันนี้ไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง หลังพบการระบาดของโรคโควิด-19 แบบคลัสเตอร์ในทิเบต สำหรับเศรษฐกิจของทิเบตส่วนใหญ่พึ่งพารายได้ส่วนใหญ่จากธุรกิจท่องเที่ยวและพระราชวังโปตาลาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเข้าไปเที่ยวชม

          มาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายลดโรคเหลือ 0 ของจีน รวมถึงการล็อกดาวน์พื้นที่ศูนย์กลางการแพร่ระบาด เพื่อลดการเดินทางของประชาชน การจัดโครงการตรวจโรคโควิด-19 อย่างสม่ำเสมอ การกักกันผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดการแพร่ระบาด ต่างจากประเทศอื่นๆทั่วโลกซึ่งใช้นโยบายรณรงค์ให้ประชาชนปรับตัวอยู่กับโรคโควิด-19 เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเที่ยวได้ตามปกติ

          ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศจีนในวันนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีน พบผู้ป่วยรายใหม่ 399 คน รวมทั้ง 22 คนในทิเบต ตัวเลขผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 231,665 คน เสียชีวิต 5,226 ราย

          ด้านสำนักข่าวซินหัว รายงานอ้าง คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน รายงานว่าแผ่นดินใหญ่ของจีนตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ติดเชื้อในท้องถิ่น 350 คน ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในไห่หนาน (ไหหลำ) 300 คน ในวันจันทร์ (8 ส.ค.) รายงานระบุว่าแผ่นดินใหญ่ยังตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในท้องถิ่นแบบไม่แสดงอาการรวม 478 คน ในวันจันทร์ (8 ส.ค.) โดยส่วนหนึ่งอยู่ในไห่หนาน 171 คน และเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ 146 คน

         นอกจากนั้น ผู้ติดเชื้อที่หายดีแล้ว ออกจากโรงพยาบาล รวม 108 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยหายดีสะสมอยู่ที่ 223,878 คน เมื่อนับถึงวันวันจันทร์ (8 ส.ค.) และไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตอยู่ที่ 5,226 ราย

#จีน

#ปิดพระราชวังโปตาลาในทิเบต

#โควิด