สถาบันสุขภาพแห่งชาติ อิตาลี รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ (West Nile virus) ยืนยันสะสม 94 คนแล้ว นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าภายในหนึ่งสัปดาห์ จากที่ในสัปดาห์ที่แล้วมีจำนวนสะสม 42 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย
ในกลุ่มผู้ติดเชื้อมีอยู่ 55 คน หรือมากกว่าครึ่งหนึ่ง ที่ติดเชื้อไวรัสชนิดทำลายประสาท
ส่วนในกลุ่มผู้เสียชีวิต 7 ราย มีอยู่ 5 รายที่อยู่ในแคว้นเวเนโตทางตะวันออกเฉียงเหนือ อีก 2 รายอยู่ในแคว้นปิเอมอนเตและแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญา
ไวรัสเวสต์ไนล์ เป็นเชื้อไวรัสที่มียุงเป็นพาหะ ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่กำลังมีการวิจัยอยู่ สถาบันฯ จึงแนะนำผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงป้องกันตนเองด้วยการใช้ยาไล่แมลงหรือสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนัง มีการกำจัดแหล่งแพร่พันธุ์หรือจุดที่มีน้ำขัง
ระยะฟักตัวของโรค : โดยเฉลี่ย 5 - 15 วัน
ผู้ติดเชื้อจะเกิดกลุ่มอาการได้ 3 แบบ คือ
1.ไม่แสดงอาการ พบร้อยละ 80
2.กลุ่มอาการไม่รุนแรง จะมีไข้ ปวดศีรษะ หนาวสั่น มีเหงื่อออก มีผื่นที่ผิวหนัง อ่อนเพลีย ต่อมนํ้าเหลืองอักเสบ ซึม ปวดข้อ และมีอาการคล้ายไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน โดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นภายใน 7 - 10 วัน แต่จะยังคงมีอาการอ่อนเพลียประมาณ 1 สัปดาห์ และมีอาการต่อมนํ้าเหลืองอักเสบอีกประมาณ 2 เดือน
3.กลุ่มอาการรุนแรง รายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการทางสมองร่วมด้วย ได้แก่ สมองหรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ มีอาการไข้สูง คอแข็ง ซึม ชัก และหมดสติ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายจะเพิ่มจำนวน และกระจายไปบริเวณต่อมนํ้าเหลือง กระแสเลือด และเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง กระตุ้นให้มีการเพิ่มระดับของปัจจัยที่ทำให้เกิดการตายของเนื้องอก (tumor necrosis factor) เพิ่มความสามารถในการซึมผ่านเยื่อหุ้มสมองเกิดการติดเชื้อโดยตรงที่เซลล์ประสาท โดยเฉพาะบริเวณนิวเคลียส เนื้อเยื่อประสาทและสมองส่วนที่มีสีเทาก้านสมอง และกระดูกไขสันหลัง
...
#อิตาลี
#ไวรัสเวสต์ไนล์
ข้อมูลเพิ่มเติมจากกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข