สำนักงานสถิติแคนาดารายงานว่า นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 เหตุอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนา รสนิยมทางเพศ และเชื้อชาติเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งกลุ่มรณรงค์ เรียกร้องให้รัฐบาลผ่านกฎหมายต่อต้านก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังโดยเร็ว เพื่อให้มีการรวบรวมข้อมูลผู้ที่กระทำความผิด สถานที่ที่เกิดอาชญากรรมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้มีการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุ
แคนาดามีความภาคภูมิใจในฐานะประเทศที่มีความหลากหลายและยินดีต้อนรับผู้อพยพและผู้ลี้ภัย เนื่องจากการย้ายถิ่นเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจของแคนาดา โดยแรงงานอพยพคิดเป็นร้อยละ 84 ของการเติบโตของกำลังแรงงานทั้งหมดในปี 2563 และในปี 2564 แคนาดาต้อนรับผู้อยู่อาศัยถาวรจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ 401,000 คน ทั้งตั้งเป้าหมายว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 432,000 คนในปีนี้
ในรายงานของสำนักงานสถิติ ระบุว่า อัตราการเกิดอาชญากรรมจากความเกลียดชังเพิ่มขึ้นร้อยละ 72 ระหว่างปี 2562 ถึง 2564 สืบเนื่องมาจากโควิด-19 ที่ทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยและมีการเลือกปฏิบัติที่รุนแรงขึ้น
ชาวแคนาดาเชื้อสายจีน ระบุว่า พวกเขาถูกเลือกปฏิบัติ โดยการนำไปเชื่อมโยงกับข้อสันนิษฐานที่ว่าต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 อยู่ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
ในปี 2564 อาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังที่เกี่ยวข้องกับศาสนายังเพิ่มขึ้นร้อยละ 67
อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับรสนิยมทางเพศเพิ่มขึ้นร้อยละ 64
และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเชื้อชาติหรือชาติพันธุ์เพิ่มขึ้นร้อยละ 6
ในรายงานยังพบว่า อาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อชาวมุสลิมเพิ่มขึ้นร้อยละ 71 ในปี 2564 เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งสภามุสลิมแคนาดา เปิดเผยว่า อาชญากรรมจากความเกลียดชังมีมากเกินกว่าที่ปรากฏในสถิติ ซึ่งชาวมุสลิมในแคนาดาตกเป็นเป้าหมายโจมตีหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงเหตุกราดยิงที่มัสยิดแห่งหนึ่งในควิเบกซิตีในปี 2560 ที่มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และเมื่อปีที่แล้ว (2564) ยังมีเหตุคนร้ายขับรถชนครอบครัวชาวมุสลิมในรัฐออนแทรีโอ
...
#แคนาดา
#อาชญากรรมจากความเกลียดชัง