สหรัฐฯ ยังรักษาความสัมพันธ์กับจีน หลังจีนยุติความร่วมมือหลายด้าน

          กรณีที่กระทรวงการต่างประเทศจีน ออกแถลงการณ์ระงับความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในหลายประเด็นโดยอ้างถึงการที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรสสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน

          นางคารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า นางเพโลซีมีสิทธิที่จะเดินทางไปไต้หวัน และเห็นว่ามาตรการของจีนแสดงให้เห็นถึงการขาดความรับผิดชอบโดยพื้นฐาน สหรัฐฯ จะพยายามต่อไปเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับจีน พร้อมปกป้องผลประโยชน์และค่านิยมของสหรัฐฯ รวมถึงการรักษาสัมพันธ์กับไต้หวันและการขายอาวุธเพื่อป้องกันตัวเอง

          ส่วนนายจอห์น เคอร์รี ทูตพิเศษของสหรัฐฯ ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเปิดเผยว่า การตัดสินใจของจีนที่จะระงับการเจรจาทวิภาคีกับสหรัฐฯ ในประเด็นที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนั้น ไม่ใช่เป็นการลงโทษสหรัฐฯ แต่เป็นการลงโทษทั้งโลก 

          ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ระงับความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยกเลิกการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ กับจีน รวมถึงยกเลิกความร่วมมือในการส่งตัวผู้อพยพผิดกฎหมาย ตลอดจนการสอบสวนอาชญากรรมระหว่างประเทศ เพื่อเป็นการตอบโต้ที่นางเพโลซี ประธานสภาคองเกรสสหรัฐฯ และคณะเดินทางเยือนไต้หวัน เมื่อวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) ซึ่งจีนถือว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดต่ออำนาจอธิปไตยทั้งยังแสดงให้เห็นถึงการยั่วยุอย่างร้ายแรง หลังจากที่เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ทางการจีนมีการออกมาตรการคว่ำบาตรนางเพโลซีและครอบครัวไปแล้ว

          จีนและสหรัฐฯ มีข้อขัดแย้งกันในหลายประเด็น แต่ยังคงพยายามรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตไว้ โดยในความร่วมมือต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศเมื่อปีที่แล้ว (2564) ที่เมืองกลาสโกว์ ทางการจีนได้ให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อลดการปล่อยมลพิษ

...

#จีนสหรัฐ