ศูนย์ประสานงานร่วม (JCC) ในเมืองอิสตันบูล ตุรกี ซึ่งมีหน้าที่ประสานกับรัสเซียช่วยให้เรือสินค้ายูเครนแล่นผ่านทะเลดำอย่างปลอดภัย เปิดเผยว่า สภาพอากาศแปรปรวนในระยะนี้ ส่งผลให้เรือ เอ็มวี ราโซนี เรือสินค้าลำแรกที่บรรทุกธัญพืชคือข้าวโพดจำนวน 26,500 เมตริกตันจากยูเครน แล่นมาถึงเมืองอิสตันบูลช้ากว่ากำหนดคือ ระหว่างเย็นวันนี้ จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้ จากกำหนดเดิมเวลา ที่จะถึงในเวลา 15.00 น.ของวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น นับเป็นเรือสินค้าลำแรกที่แล่นออกยูเครน นับแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์
ระหว่างการแวะจอดที่ท่าเรือเมืองอิสตันบูล เจ้าหน้าที่จากศูนย์ JCC จะขึ้นไปตรวจเรือ เพื่อดูว่า มีการลักลอบบรรทุกอาวุธหรือไม่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่จากศูนย์ JCC พบว่าไม่มีการทำผิดกฎระเบียบ จะอนุญาตให้เรือแล่นไปยังจุดหมายคือ ท่าเรือเมืองทริโปลี เลบานอน เพิ่มเติมว่า ขณะนี้ ยังไม่มีการประสานกับยูเครนและรัสเซียในเรื่องกำหนดการเดินเรือสำหรับเรือสินค้าอื่นๆจากยูเครน
ก่อนหน้านี้ เรือเอ็มวี ราโซนี แล่นจากท่าเรือเมืองโอเดสซา ทางภาคใต้ของยูเครน ผ่านทะเลดำ เมื่อวาน ภายใต้ข้อตกลงการส่งออกธัญพืช ซึ่งมียูเอ็นและตุรกีทำหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ย ทำให้หลายฝ่ายเริ่มมีความหวังว่า ปัญหาวิกฤตการขาดแคลนอาหารหลังรัสเซียบุกยูเครนอาจจะคลี่คลายลงในอนาคต
นับแต่มีการสู้รบในยูเครน ท่าเรือทางภาคใต้ของยูเครนในฝั่งทะเลดำ ถูกรัสเซียปิดล้อมเรื่อยมา ทำให้เรือสินค้ายูเครนไม่สามารถส่งออกสินค้าไปยังหลายประเทศ ซึ่งพึ่งพาการนำเข้าสินค้าอาหารจากยูเครน หลายฝ่ายคาดว่า ข้าวสาลีและข้าวโพด 20 ล้านตันติดค้างอยู่ที่โกดังของท่าเรือเมืองโอเดสซาเรื่อยมา
ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า ทั้งยูเครนและรัสเซียเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลก ซึ่งในสถานการณ์ปกติ ยูเครนส่งออกข้าวเปลือกคิดเป็นสัดส่วนสามในสี่ของปริมาณข้าวเปลือกที่ผลิตในแต่ละปี โดยร้อยละ 90 ของสินค้าเกษตรจากยูเครนจะส่งออกทางเรือผ่านทะเลดำ
#ตุรกี
#ศูนย์ประสานงานร่วม
#การส่งออกธัญพืชยูเครน