ธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 11 ปี มากถึงร้อยละ 0.50 เป็นการปรับขึ้นในระดับที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เพื่อพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อในกลุ่มยูโรโซน ที่อยู่ในระดับสูงถึงร้อยละ 8.6 สูงกว่าเป้าหมายที่ร้อยละ 2
แต่การปรับขึ้นที่ระดับร้อยละ 0.50 ยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 0.25
โดยอีซีบี มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ 0.50 จากเดิมที่อยู่ในระดับ ติดลบร้อยละ 0.5 (-0.5%) ดังนั้นระดับใหม่คือร้อยละ 0
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ร้อยละ 0.50 จากเดิมอยู่ที่ระดับ ร้อยละ 0 อัตราใหม่จึงเป็นร้อยละ 0.50
และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 0.50 จากเดิมอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.25 ดังนั้นอัตราใหม่คือร้อยละ 0.75
นางคริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบี กล่าวว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในยูโรโซนกำลังชะลอตัว โดยได้รับแรงผลักดันจากการที่รัสเซียบุกรุกยูเครน ค่าใช้จ่ายประจำวันที่เพิ่มขึ้นสร้างแรงกดดันต่อครัวเรือนและทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากการอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยนเงินยูโรต่อดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคารกลางของหลายประเทศได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด โดยมีแนวคิดคือ เมื่อดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ผู้คนจะใช้จ่ายเงินน้อยลง เมื่อมีความต้องการสินค้าน้อยลง ราคาสินค้าจะลดลง แต่ก็มีความกังวลว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจผลักดันให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งหมายถึงการที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน
อีซีบี เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2551 เพื่อกระตุ้นการเติบโต และปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่ำสุดที่ติดลบร้อยละ 5 (-0.5%) ในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19
...
#อีซีบี
#ขึ้นดอกเบี้ย