เงินเฟ้อเดือนมิ.ย.อังกฤษ สูงสุดในรอบ 40 ปี ปัจจัยน้ำมันแพง-สงครามรัสเซียยูเครน

          สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ เปิดเผยว่า ราคาสินค้าต่างๆเช่น น้ำมันและอาหาร ยังคงเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี ขณะที่เงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งขึ้นร้อยละ 9.4 ในเดือนมิถุนายนจากร้อยละ 9.1 ในเดือนพฤษภาคม สำหรับเงินเฟ้อจะขึ้นลงในทิศทางเดียวกับราคาผู้บริโภค เช่น แต่เดิมเราเคยซื้อนมหนึ่งกล่องในราคา 1 ปอนด์ ต่อมา ผู้ประกอบการปรับขึ้นราคานมกล่องอีก 5 เพนนี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หมายความว่า ราคาขายซื้อนมกล่อง มีการบวกเงินเฟ้อร้อยละ 5

          ขณะเดียวกัน น้ำมันแพงขึ้นในช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ ผลมาจากการสู้รบในยูเครนและมาตรการของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ที่ลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย หนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรเพื่อลงโทษรัสเซียที่บุกยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยอยู่ที่ 184 เพนนี(81.07บาท)ต่อลิตรในเดือนมิถุนายน จากเดิม 129.7 เพนนีต่อลิตรในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันน้ำมันดีเซลในเดือนมิถุนายน เฉลี่ยอยู่ที่ 192.4 เพนนี ต่อลิตร สูงที่สุด นับแต่สำนักงานสถิติแห่งชาติเริ่มรวบรวมสถิติครั้งแรกในปี 2533

           ส่วนราคาอาหาร เช่น นม เนยแข็ง ไข่ ผัก เนื้อสัตว์และอาหารปรุงสำเร็จพร้อมรับประทานในเดือนมิถุนายน ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับสถิติในเดือนมีนาคม 2552

          ด้านนายนาดิม ซาฮาวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลจะทำงานร่วมกับธนาคารกลางของอังกฤษ เพื่อพิจารณาแนวทางการควบคุมเงินเฟ้อให้ต่ำลง ระบุว่าทุกประเทศทั่วโลกต่างเร่งหาทางแก้ปัญหาเงินเฟ้อ และตนเองทราบดีว่า ประชาชนในอังกฤษเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ด้านสหภาพแรงงานของอังกฤษขอให้บริษัทเอกชนปรับขึ้นค่าจ้างให้กับคนงานเพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับคนงานในสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน

          ด้านธนาคารกลางของอังกฤษระบุก่อนหน้านี้ว่า เงินเฟ้อของอังกฤษอาจจะแตะร้อยละ 11 ในปีนี้ พร้อมพูดเป็นนัยว่า ธนาคารกลางของอังกฤษอาจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยแนะนำว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีผลให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินจากธนาคารสูงขึ้น จะทำให้ประชาชนกู้ยืมเงินจากธนาคารน้อยลงและใช้จ่ายน้อยลง พร้อมทั้งออมเงินให้มากขึ้น

#อังกฤษ

#เงินเฟ้อ

#น้ำมันแพง