ฝรั่งเศส จัดทำแผนรับมือวิกฤตพลังงาน ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน ประธานาธิบดีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อยู่ระหว่างการเยือนกรุงปารีส ของฝรั่งเศส 3 วัน เริ่มจากเมื่อวาน เป็นการเยือนฝรั่งเศสเป็นครั้งแรกในฐานะประธานาธิบดีของยูเออี หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565
นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส และประธานาธิบดีของยูเออี ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงาน เพื่อให้แน่ใจว่า ฝรั่งเศสจะมีน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติจากยูเออีไว้ใช้ในอนาคต อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของฝรั่งเศสในการจัดทำแผนรองรับเหตุฉุกเฉินด้านพลังงาน กรณีรัสเซียหยุดส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อส่งไปยังยุโรป ตอบโต้กลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ซึ่งคว่ำบาตรรัสเซียภายหลังการบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565
นายเลอ แมร์ กล่าวถึงข้อตกลงนี้ว่า มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ด้านพลังงาน 2 เรื่องหลักๆสำหรับฝรั่งเศส ข้อแรกคือ ช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระยะสั้นสำหรับฝรั่งเศส ข้อที่ 2 คือ เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตการใช้คาร์บอนต่ำ หรือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
รัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศสไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆของข้อตกลงฉบับนี้ ส่วนข้อตกลงอื่นๆที่ผู้นำยูเออีจะลงนามระหว่างการเยือนฝรั่งเศสในครั้งนี้ รวมถึงข้อตกลงระหว่างบริษัทโททาล เอนเนอร์ยี่ส์ ผู้ประกอบธุรกิจพลังงานรายใหญ่ของฝรั่งเศส กับ บริษัทอาบูดาบีเนชั่นแนล ออยล์ ผู้ประกอบธุรกิจพลังงานรายใหญ่ของยูเออี เพื่อให้แน่ใจว่าฝรั่งเศสมีความมั่นคงด้านพลังงาน
การพบกันของสองผู้นำมีขึ้นขณะที่สงครามในยูเครนเข้าสู่เดือนที่ 6 และยุโรปอยู่ในช่วงเจอสภาพอากาศร้อนจัด หลายประเทศต่างเตรียมแผนสำรองรับมือกรณีรัสเซียปิดก๊าซธรรมชาติที่ส่งไปยังยุโรป ทั้งมีปัญหาน้ำมัน และอาหารมีราคาแพง เงินเฟ้อและค่าครองชีพสูงทั่วทั้ง 27 ประเทศสมาชิกของอียู
ฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับยูเออี และผู้นำของประเทศทั้งสองได้พัฒนาความสัมพันธ์เป็นการส่วนตัวมาโดยตลอด เช่น ระหว่างการเยือนยูเออีของนายมาครง เมื่อปีที่แล้ว ฝรั่งเศสทำข้อตกลงขายอาวุธมูลค่า 16,000 ล้านยูโรให้กับยูเออี นับเป็นการทำข้อตกลงส่งออกอาวุธครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ฝรั่งเศสเคยลงนาม
#ฝรั่งเศส
#ยูเออี
#ความร่วมมือด้านพลังงาน