โฆษกกองทัพบกของประเทศชาด ซึ่งตั้งอยู่ในแอฟริกากลาง แถลงพบศพประมาณ 100 ศพ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย ติดชายแดนไนเจอร์ เกลื่อนกลาดอยู่โดยรอบใต้สะพานแห่งหนึ่ง ชานเมืองดามาซัก ซึ่งกองทัพชาดและไนเจอร์ยึดคืนจากกลุ่มติดอาวุธโบโกฮารามมาได้เมื่อวันที่ 9 มี.ค. คาดว่า ศพดังกล่าวน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มโบโกฮารามเมื่อ 2 เดือนก่อน โดยหลายศพอยู่ในสภาพถูกตัดศีรษะ หรือถูกยิง สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR รายงานว่า กลุ่มโบโกฮารามได้ยึดเมืองดามาซักตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. สังหารผู้คนไปแล้วประมาณ 50 ศพ ทำให้ต้องมีการอพยพหลบหนีถึง 3,000 คน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีกู้ดลัค โจนาธาน ของไนจีเรีย ซึ่งจะลงสมัครเลือกตั้งอีกครั้งในสัปดาห์หน้า กำลังเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความล้มเหลวในการควบคุมเหตุการณ์รุนแรง ทำให้ต้องรับความช่วยเหลือจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งแคเมอรูน ชาด และไนเจอร์
ทั้งนี้ ทหารประมาณ 15นายจากประเทศชาดและไนเจอร์ เสียชีวิตในการต่อสู้เพื่อควบคุม2เมืองในภาคเหนือของไนจีเรียคืนจากกลุ่มโบโกฮารามซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญครั้งแรกที่มีเหนือกลุ่มหัวรุนแรงในปฏิบัติการร่วมทางทหาร ขณะที่ ทหารไนเจอร์และชาดประมาณ30นายได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้ที่เกิดจากการดักซุ่มโจมตีนอกเมืองมาลามฟาตูรี และเมืองดามาซัก เมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยเมืองดามาซักทางตะวันออกไกลของไนจีเรีย อยู่ห่างจากพรมแดนทางตอนใต้ของไนเจอร์ประมาณ10กิโลเมตรซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทหารไนเจอร์และชาดไปรวมพลกันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนปฏิบัติการโจมตี การปฏิบัติการร่วมซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่8มีนาคม โดยมีทหารหลายพันนายข้ามพรมแดนบุกเข้ายึดหลายพื้นที่ที่กลุ่มโบโกฮาราม ยึดครองอยู่ซึ่งจากการก่อความรุนแรงของโบโกฮาราม บีบให้ไนจีเรียต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปขณะที่ ประชาชนส่วนใหญ่ในเมืองดามาซัคก็ได้หลบหนี เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการโจมตีแต่ขณะนี้ทหารก็เรียกร้องให้ประชาชนเดินทางกลับเข้าบ้านแล้ว