กลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอินโดนีเซีย เรียกร้องให้รัฐบาลผ่อนคลายการควบคุมการส่งออกและภาษี เพื่อให้สามารถขายผลผลิตที่กำลังมีความเสี่ยงที่จะเสียหาย เนื่องจากฤดูเก็บเกี่ยวในเดือนสิงหาคมถึงกันยายนนี้ มีแนวโน้มว่าจะมีผลผลิตคงค้างจำนวนมาก โดยปริมาณของผลผลิตในคลังสินค้า อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี และจะคงที่ไปอีกหลายเดือนหากการส่งออกยังไม่กลับมาสภาวะปกติ
อินโดนีเซีย เป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ของโลก การผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออกจะทำให้ราคาลดอีกเกือบครึ่งหนึ่งจากระดับปลายเดือนเมษายน มาสู่ระดับต่ำสุดในรอบปี
ผู้ผลิตในอินโดนีเซียต้องเร่งจัดการกับผลผลิตคงค้างจำนวนมาก เนื่องจากการห้ามส่งออกเป็นเวลา 3 สัปดาห์จนถึงวันที่ 23 พฤษภาคม เพื่อลดราคาน้ำมันสำหรับประกอบอาหารในประเทศ แต่ทำให้ประเทศมีรายได้จากการส่งออกลดลงประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์
หนึ่งในข้อบังคับที่ภาคอุตสาหกรรมเรียกร้องให้ยกเลิกคือ การบังคับสำรองขายในประเทศ (DMO) ซึ่งอุตสาหกรรมเห็นว่ามีการคำนวณที่ยุ่งยาก ทั้งซ้ำซ้อน และจะทำให้ตลาดในประเทศมีน้ำมันปรุงอาหารมากเกินไป
ข้อมูลศุลกากรระบุว่า อินโดนีเซียส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม 2,350,000 ตันในช่วงวันที่ 23 พฤษภาคม ถึง 12 กรกฎาคม เทียบกับปริมาณการส่งออกปกติที่ 3,000,000 ตันต่อเดือนก่อนที่จะมีการสั่งห้ามส่งออก
....
#น้ำมันปาล์มอินโดนีเซีย